‘ถาวร’จี้ บินไทย-ไทยสมายล์ หารายได้ล้างขาดทุน สั่งจับมือมท.นำสินค้าโอทอปขายออนไลน์ทั่วโลก ด้าน’บิ๊กไทยสมายล์’เผยขาดทุนสะสม 8 พันล้าน ร้องบริษัทแม่เพิ่มทุนในปีนี้
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ นางชาริตา ลีลายุทธ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายด์แอร์เวย์ จำกัด เข้าพบนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอรับนโยบายการทำงาน
นายถาวรกล่าวว่า การบินไทยยังอยู่ในช่วงทำแผนฟื้นฟูกิจการ เป็นหน่วยงานที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุนสะสมมาตลอด 10 ปี ประมาณ 28,533 ล้านบาท จากผู้บริหารหลายยุคหลายสมัย จะต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยจะตั้งคณะทำงานมาดูรายละเอียดร่วมกันต่อไป ทั้งนี้การบินไทยเคยติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกด้านการบิน แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 1 ใน 10 ของโลก จะต้องพลิกฟื้นให้การบินไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ภายใต้มนต์ตราโปรเจ็กต์ คือ ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ มีการบริการที่ดี ปรับช่องทางการขายใหม่ ทำธุรกิจข้างเคียงสร้างรายได้ จะร่วมกับกระทรวงหมาดไทย ในการผลักดันสินค้า โอทอป ที่โดดเด่นมาจัดจำหน่วยร่วมกัน ซึ่งดีดีบินไทยบอกว่าภายใน 3-5 ปีหรือในปี 2565 จะมีกำไร
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กล่าวว่า สำหรับการบินไทยได้ใช้กลยุทธ์มนตรา ตามแผนฟื้นฟู ปัญหาเกิดจากมีเครื่องบินไม่พอ และมีอายุการใช้งานมาก ทำให้ผลการดำเนินการไม่ดีในเรื่องส่วนแบ่งการตลาด ภายใน 2 ปีนี้แผนงานทุกอย่างจะเรียบร้อย
“แผนการซื้อเครื่องใหม่ 38 ลำ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนฟื้นฟู แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ทำให้แผนเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีไม่ทัน จึงต้องนำกลับเริ่มต้นกระบวนนำเสนอโครงการใหม่ แต่จะไม่มีการปรับลดจำนวนและวงเงินแต่อย่างใด เพียงแต่ทำรายละเอียดที่บอร์ดสภาพัฒน์ฯมีข้อท้วงติงเครื่องยนต์สำรองให้แล้วเสร็จเสนอให้บอร์ดสภาพัฒน์และคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป โดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด”นายสุเมธกล่าว และว่านอกจากนี้มีการปรับบริการด้านการขายและการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน การปรับใช้การตลาดแบบอีคอมเมิร์ซและดิจิทัล จากเดิมจะผ่านช่องทางเอเย่นต์กว่า 70% รวมถึงพัฒนาความร่วมมือระหว่างสายการบินกลุ่มไทยกรุ๊ปกับสายการบินสัญชาติไทยอื่นๆ ขณะเดียวกันภายในเดือนพฤศจิกายนนี้จะเริ่มเรื่องของการซื่อขายผ่านออนไลน์(อีคอมเมิร์ช) จากนั้นหลังสงกรานต์จะเปิดหน้าร้านนำสินค้าโอทอป ที่ร่วมกับกรมพัมนาชุมชนคัดสรรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มาจัดจำหน่าย เพื่อให้สินค้าไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น สำหรับสินค้าจะมีหลากหลาย โดยจะเป็นสินค้าที่ซื้อแล้วสามารถขนส่งไปให้ได้ด้วย เช่น มะม่วงอบแห้ง เสื้อกัญชง ผ้าบาติก เป็นต้น
นางชาริตา ลีลายุทธ กล่าวว่า บริษัทประสบปัญหาขาดทุนสะสม 8,000 ล้านบาท และในส่วนของผู้ถือหุ้นขาดทุน 6,000 ล้านบาท ซึ่งภายในไตรมาส4 นี้จะต้องทำแผนปรับโครงสร้างหนี้ให้คณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัทพิจารณาอนุมัติสายการบินไทยซึ่งจะจัดทำเป็นแผน 5 ปีเริ่มตั้งแต่ 2563 เพื่อล้างขาดทุนสะสม อาทิ เพิ่มทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท เพิ่มเส้นทางบินใหม่จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่-เกาสง ประเทศไต้หวัน และไฮเดอร์ราบัด ประเทศอินเดีย เป็นต้น สำหรับผลประกอบการในปีนี้ในช่วง 6 เดือนแรกคาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานเล็กน้อย ส่วนผู้โดยสารอยู่ที่ 300,000 คนต่อเดือน และทั้งปีอยู่ที่ 4 ล้านคน
