บินไทยโอดขาดทุน กระทบบาทแข็งฉุดรายได้ อินเดีย-ปากีสถานขัดแย้ง เครื่องจอดรอซ่อมเพียบ

แฟ้มภาพ

การบินไทยโอดขาดทุน บาทแข็งฉุดรายได้วูบ 5% อินเดีย-ปากีสถานขัดแย้งวูบ 1% เครื่องจอดรอซ่อมเพียบ ยอมรับแข่งโลว์คอสไม่ได้

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่(ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการดำเนินงานบริษัทว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการของการบินไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นประวัติการณ์ในรอบ 7 ปี จนส่งผลให้การส่งออกติดลบ และส่งผลให้การบินไทยแข่งขันได้ลำบาก เนื่องจากไม่สามารถลดราคาเพื่อแข่งขันกับสายการบินอื่นได้ ซึ่งการที่บาทแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ตั้นปีถึงปัจจุบัน 5% ส่งผลให้รายได้ของการบินไทยหายไป 5% เช่นเดียวกัน

“ถ้าบาทอ่อนจะสามารถแข่งขันได้ดี แต่ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐจะแพงขึ้นทุกส่วน ถ้าบาทแข็ง ค่าใช้จ่ายที่เป็นดอลลาร์สหรัฐก็ลดลง ในขณะที่รายได้ที่เป็นดอลลาร์สหรัฐก็หดตัวตามไปด้วย หากเปรียบเทียบผลบวกและลบ เกี่ยวกับกำไรและขาดทุนจะไม่ต่างกันมาก แต่บาทแข็งทำให้การแข่งขันที่รุนแรงทำไม่ได้เลย”นายสุเมธกล่าว

นายสุเมธกล่าวว่า ทั้งนี้ยังได้รับผลกระทบจากความาขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างอินเดียและปากีสถาน ซึ่งปกติจะมีลูกค้าจากปากีสถานเป็นจำนวนมาก ก็หายไป ส่งผลให้รายได้จากลูกค้ากลุ่มนี้หายไปประมาณ 1% นอกจากนี้ยังมีเรื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางทางอากาศที่ได้ไม่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม ที่ติดลบ ซึ่งไม่นับนักท่องเที่ยวจากจีนที่ลดลง เนื่องจากค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง นักท่องเที่ยวก็เดินทางเข้าไทยน้อยลง และหันไปเที่ยวญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนามแทน

Advertisement

“จากปัญหาต่างๆที่กล่าวมา จึงส่งผลให้มีปัญหาเรื่องขาดทุน ไตรมาส 2 เป็นไตรมาสที่ยากลำบากพอสมควร ซึ่งสายการบินอื่นก็เจอปัญหาขาดทุนเหมือนกัน โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาเรื่องการขายเราดิ้นสู่สุดชีวิตเหมือนกัน ทำเต็มที่แล้ว แต่ปัจจุบันภายนอกเป็นปัจจัยหลักที่กระทบ”นายสุเมธกล่าว

นายสุเมธกล่าวว่า สำหรับปัจจัยภายในหลักที่กระทบ คือ เครื่องบินจอดซ่อม ที่ปัจจุบันจอดอยู่เฉยๆ 12 ลำ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการจัดหาเครื่องบินใหม่ จึงส่งผลให้กำลังการผลิตลดลง 5-6% โดยเครื่องบินที่จอดอยู่เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกันทั่วโลกกับเครื่องบินรุ่นนี้ที่ขาดแคลนเครื่องยนต์ จึงลดความสามารถในการผลิตลง โดยเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

นายสุเมธกล่าวว่า ในเรื่องของการเพิ่มรายได้ การบินไทยเตรียมเปิดเส้นทางใหม่ไปยังเมืองเซ็นได ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นตลาดสำคัญ เป็น 1 ใน 3 ของรายได้การบินไทย ตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมาได้พยายามทำตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นเมืองที่ 6 ที่การบินไทยให้บริการที่คาดหวังจะสร้างรายได้เพิ่มได้

Advertisement

“การบินไทยบินในประเทศ 5% ที่เหลือบินต่างประเทศหมด ไม่เหมือนโลว์คอสแอร์ไลน์ ที่เน้นให้บริการในประเทศ ค่าเงินที่แข่งค่าทำให้เขาได้ประโยชน์ด้วยซ้ำ เพราะทำให้ค่าเช่าเครื่องบินถูกลงด้วย ดังนั้นการบินไทยแข่งโลว์คอสแอร์ไลน์ไม่ได้หรอก แต่เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐด้วย”นายสุเมธกล่าว

นายสุเมธกล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปลี่ยนแผนเล็กน้อย คือ ซ่อมบำรุงเครื่องบินตามแผนไม่ได้ ก็ต้องทำก่อนที่จะถึงกำหนด รวมถึงเช่าเครื่องบินมาให้บริการเพิ่มประมาณ 3 ลำ เพื่อรองรับเส้นทางยุโรป โดยจะเข้ามาประมาณไตรมาส 4 หรือต้นปี 2563 ซึ่งบางรุ่นที่เช่ามาจะถูกกว่าปกติ 10-20%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image