คลุกวงหุ้น : “โกลเบล็ก”เชื่อสงครามการค้าคลายตัวมากขึ้น แนะจับตาประกาศจีดีพีไตรมาส 2 (ชมคลิป)

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นประจำสัปดาห์นี้ ปัจจัยที่น่าจับตามองหลักเป็นปัจจัยต่างประเทศคือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน(เทรดวอร์) ที่มีภาพของความผ่อนคลายเกิดขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯได้ออกมาเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าบางส่วนจากจีน เป็นวันที่ 15 ธันวาคมนี้ จากเดิมกำหนดไว้วันที่ 1 กันยายนนี้ ทำให้ความตึงเครียดมีลดลง แต่ยังมีความยืดเยื้ออยู่ โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าสงครามการค้าจะสิ้นสุด หรือบรรลุข้อตกลงกันได้ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งใหม่เกิดขึ้นในปี 2563 ส่วนปัจจัยในประเทศจะมีเรื่องของการเมืองไทย ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลไทย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการพิจารณางบประมาณปี 2563 เพราะงบของปี 2562 จะหมดภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งขณะนี้เสียงรัฐบาลยังค่อนข้างปริ่มน้ำอยู่ และยังมีภาพความวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามไทม์ไลน์จะออกมาภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษา โดยจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ก็น่าจะมีความคืบหน้าบางส่วนเกิดขึ้นได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่ารายละเอียดจะเป็นอย่างไร แต่หลักๆ เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน และหาวิธีทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น รวมถึงน่าจะมีการดูแลพืชผลทางการเกษตรในแก้ปัญหาเกี่ยวกับภัยแล้ง และบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

นางสาววิลาสินี กล่าวว่า ในส่วนของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ(ฟันด์โฟลว์) ในช่วงต้นปีจะเห็นได้ว่ามีเม็ดเงินทุนของต่างชาติไหลเข้ามาค่อนข้างเยอะ แต่ในช่วงหนึ่งถึงสองเดือนที่ผ่านมามีการขายออกมากขึ้น หากนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมจนถึงขณะนี้ มีการไหลออกของเงินทุนกว่า 2,300 ล้านบาท แต่หากนับตั้งแต่ต้นปียังมียอดซื้อสุทธิเหลืออยู่ 37,000 ล้านบาท ทำให้ยังเหลือเม็ดเงินซื้อสุทธิอยู่บางจำนวน แต่จะเห็นได้ว่าเกิดภาพการทะยอยขายสุทธิมากขึ้น แต่ต้องติดตามต่อไป สำหรับข่าวสารสำคัญที่ต้องติดตามเป็นเรื่องของการประกาศตัวเลข ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ในช่วงไตรมาส 2 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ซึ่งต้องติดตามว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่หากดูทิศทางตามตัวเลขการส่งออกที่ยังติดลบอยู่ในขณะนี้ 3% จึงมองว่าตัวเลขจีดีพีจะยังแผ่วลงอย่างต่อเนื่อง

“กลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ มองว่าช่วงนี้เป็นช่วงการพักฐานของตลาดหุ้นไทย และอาจจะเป็นขาลงของตลาดหุ้นไทยด้วย จุดวัดใจยังให้ที่ระดับ 1,600 จุด สำหรับนักลงทุนในระยะสั้นแนะนำให้ปรับลดพอร์ทถือครองและถือเงินสดมากขึ้น รวมถึงเตรียมทยอยที่จะเข้าเก็บหุ้น ส่วนนักลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวแนะนำให้ทยอยเก็บหุ้นสะสมต่อไปได้”นางสาววิลาสินีกล่าว

ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image