นักธุรกิจส่วนใหญ่บนเกาะสมุย ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะเดินหน้าแก้กฎหมายการเช่าที่ดิน จากเดิมต่างชาติเช่าที่ดินได้ 50 ปี ออกไปโดยให้เช่าได้นานถึง 99 ปี โดยอ้างหลักการว่าเงื่อนไขเวลาการเช่านาน 50 ปี ไม่จูงใจต่างชาติเข้ามาลงทุน เพราะบางโครงการต้องลงทุนยาวนานจึงจะคุ้มทุน
เมื่อวันที่ 27 มกราคม หลังจากที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาล โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะแก้กฎหมายการเช่าที่ดินจากเดิม 50 ปี เป็น 99 ปีนั้นเพื่อกระตุ้นนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนที่ประเทศไทยมากขึ้น อย่างที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แหล่งท่องเที่ยวชื่อด้งระดับโลก ที่มีมูลค่าราคาของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์สูงลิ่ว จนคนธรรมดาไม่สามารถจับจองได้ ทำให้มีกลุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในรูปแบบนิติบุคคลเพิ่มมากขึ้น
นางกาญจนา บรมธนรัตน์ อายุ 64 ปี เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บนเกาะสมุย พูดว่า ในกรณีที่จะแก้กฎหมายให้ต่างชาติเช่าที่ดินจาก 50 ปี เป็น 99 ปีนั้น ตนเองไม่อยากให้มีการเช่าในระยะยาว ถ้าคนต่างชาติมาครอบครองในระยะยาวลูกหลานของเราก็จะหมดโอกาสที่จะทำมาหากิน ส่วนกฎหมาย 50 ปี ที่มีมาก่อนแล้วโดยส่วนตัวแล้วอยากให้ลดลงมาอีก ถ้าแก้กฎหมายถ้าแก้ได้ก็อยากให้แก้เป็น 30 ปีแทน
ด้านนายประวิทย์ สากลกิจจานุกูล เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีสาขาเกาะสมุย เปิดเผยว่า สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่มาเช่าที่ดินบนเกาะสมุย ส่วนมากจะมาในรูปของบริษัทหรือนิติบุคคลเป็นผู้เช่า ซึ่งจะเป็นบริษัทสัญชาติไทยโดยต่างชาติจะถือหุ้นตามที่กฎหมายอนุญาต นอกนั้นก็จะเป็นคนไทยถือหุ้น แต่การบริหารนั้นไม่มั่นใจว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติเป็นผู้บริหาร ซึ่งส่วนใหญ่ที่มาทำสัญญาเช่าอย่างน้อยสุดก็จะอยู่ที่ระยะเวลา 30 ปี และเมื่อยังไม่ครบกำหนดสัญญาเช่าก็จะมาต่อสัญญาอีก 30 ปี
ขณะที่นายประเสริฐ พละศึก หัวหน้าฝ่ายทะเบียนที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานีสาขาเกาะสมุย เผยว่าพื้นที่เกาะสมุยจะมีการจดทะเบียนการเช่าเกือบทุกวัน ปัจจุบันการเช่าที่ดินกฎหมายบังคับไว้สามารถทำได้ครั้งละ 30 ปี และต่อได้ครั้งละ 30 ปี อีก 2 ครั้ง รวมเป็น 90 ปี แต่ถ้ามีการจดทะเบียนสัญญาเช่าทีเดียว 99 ปี ก็ถือว่าเป็นสัญญาเช่าที่มีการผูกขาด
