นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจแนวราบ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มั่นใจดีมานด์ตลาดแนวราบเติบโตต่อเนื่อง โดยดูได้จากยอดขายรวม 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมียอดขายแล้วกว่า 24,060 ล้านบาท เป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบมูลค่า 14,000 ล้านบาท เฉลี่ยยอดขายประมาณ 451 ล้านบาทต่อสัปดาห์ โตเกินจากเป้าหมายที่วางไว้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อสินค้าและบริการในเครือเอพี พร้อมบุกครึ่งปีหลังด้วยกลยุทธ์แบบรบยาว ภายใต้วิสัยทัศน์ใหญ่ขององค์กร ‘AP WORLD’ ที่มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่แห่งคุณภาพชีวิตที่ดีย้ำความเป็นผู้นำตลาด พัฒนาและส่งมอบสินค้าคุณภาพที่ตอบความต้องการในทุกช่วงชีวิต เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ให้มากขึ้น ด้วยการเติมเต็มพอร์ตสินค้าให้ครบลูป ผ่านการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา’ เซ็ทมาตรฐานใหม่ของ Luxury Duplex Home เจาะเข้าไป ยังช่องว่างลูกค้าครอบครัวรุ่นใหม่ที่มองหาบ้านลักชัวรี่ที่มีทั้งเอกลักษณ์และสเปซฟังก์ชั่นที่มากกว่า
“ปัจจุบันพอร์ตสินค้าแนวราบเครือเอพี มี 6 แบรนด์ ครอบคลุมเทรนด์การใช้ชีวิตของลูกค้า 2 กลุ่มหลัก 1.บ้านเดี่ยว ภายใต้แบรนด์ THE PALAZZO, CLASSE, THE CITY และ CENTRO ที่เน้นตอบไลฟ์สไตล์ลูกค้ากลุ่ม ‘Serene Wellness’ ครอบครัวขนาดใหญ่ 2-3 ช่วงวัยที่ต้องการบ้านที่มีพื้นที่ขนาและ 2.ทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์ บ้านกลางเมือง และ PLENO เน้นตอบไลฟ์สไตล์ลูกค้ากลุ่ม ‘Dreamolutioner’ คนรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัวเป็นของตนเอง มองหาพื้นที่ที่ทันสมัย เน้นความคุ้มค่าของประโยชน์ใช้สอย ดูแลง่าย ในทำเลเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวก” นายภมรกล่าว
นายภมรกล่าวว่า ล่าสุดเปิดแบรนด์ใหม่ ‘THE SONNE’ โดยเปิดตัวเป็นโครงการแรกที่ ‘THE SONNE ศรีนครินทร์-บางนา’ ชูไฮไลท์ 4 มิติแห่งความเป็นที่สุด ได้แก่ 1.Classical Architectural Details ที่สุดของการนำแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์คลาสสิค ผสานเข้ากับความทันสมัยในบริบทปัจจุบัน สู่การรังสรรค์บ้านแนวคิดใหม่สุดหรู 3 ชั้นที่คงเสน่ห์อัตลักษณ์ความงามเหนือกาลเวลา 2. Multi – Fa?ade Design with Triple Layer Ventilation ที่สุดของการดีไซน์เพื่อให้บ้านทุกหลังมีเอกลักษณ์ความงามและความหรูหราที่แตกต่างกัน พร้อมดึงจุดเด่นการออกแบบ Horizontal Space ของบ้านเดี่ยวที่ตอบสุนทรียะความเหนือระดับในสเปซที่มากกว่า ผนวกเข้ากับความทันสมัยและความคุ้มค่าของฟังก์ชั่นใช้สอยในบริบทของ Vertical Timeless Design ของทาวน์โฮมไว้อย่างลงตัว ยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตเหนือระดับที่มากกว่า พร้อมสุนทรียะและประสบการณ์พิเศษจากทิศทางของแสงแดดและลมที่พาดผ่านตัวบ้าน 3. Inclusive Design Approach ที่สุดของการออกแบบสเปซภายใต้แนวคิด Universal Design เพื่อให้มั่นใจว่าทุกๆ สเปซ ไม่ว่าจะเป็น เด็กเล็ก ผู้สูงวัย หรือ ผู้ใช้รถเข็นต่างๆ สามารถเข้าถึงได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง อาทิ ทางลาดเข้าสู่บ้านรองรับการใช้งานของรถเข็นต่างๆ พื้นที่ชั้น 1 ที่ไม่มีสเต็ป (Step-free Floor) สวนเชื่อมต่อห้องส่วนตัวของผู้สูงอายุ บานประตูกว้าง 1.38 เมตร ที่รองรับการใช้งานของวีลแชร์ และห้องน้ำแบบไม่มีขั้นบันได เป็นต้น และ 4. The New Tomorrow Security ที่สุดแห่งนวัตกรรมความปลอดภัยในโลกอนาคตสู่การอยู่อาศัยจริงอย่าง ‘KATSAN’ ที่เปรียบเสมือนผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะ (Personal Guardian) ที่ทำหน้าที่คัดสรร ดูแลความปลอดภัยในทุกมิติของการอยู่อาศัยเพื่อความอุ่นใจตลอด 24 ชั่วโมง
“โครงการนี้เจาะกลุ่มลูกค้าอายุระหว่าง 30-45 ปี ที่ต้องการบ้านที่มีเอกลักษณ์ความงามเฉพาะตัว สามารถรองรับการอยู่อาศัยร่วมกันของสมาชิกทุกวัยในครอบครัวใหญ่” นายภมรกล่าวและว่าโครงการดังกล่าวมีจำนวน 56 ครอบครัว ขนาดที่ดินเริ่มต้น 40-73 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยสูงสุด 249 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้นเพียง 12-15 ล้านบาท พร้อมเปิดจองอย่างเป็นทางการวันที่ 7-8 กันยายนนี้ ณ สำนักงานขายโครงการ
