เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจรับจำนำทะเบียนรถยนต์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการตรวจสอบการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินประเภทรับจำนำทะเบียนรถเมื่อวันที่21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยลงโทษปรับบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ จำกัด(มหาชน) จำนวน 1,655,000 บาท เนื่องจากเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าบริการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเกินกว่าเพดานอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งกรณีดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ประกอบธุรกิจรับจำนำทะเบียนรถยนต์อย่างมาก เพราะยังมีผู้ให้บริการทางการเงินในลักษณะเดียวกันอีกนับสิบราย โดยเฉพาะที่เคยถูกร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รวมทั้งฟ้องร้องต่อศาล แต่กลับไม่ถูกตรวจสอบหรือถูกลงโทษแต่อย่างใด ซึ่งจะกระทบกับความเชื่อมั่นในธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีมูลกว่า 200,000 ล้านบาท
“ผู้เสียหายหลายรายส่งเอกสารร้องเรียนไปยังผู้ว่าธปท.โดยตรง และมีการตรวจสอบภายใน ธปท.ก่อนมีการแจ้งกลับไปยังลูกหนี้โดยระบุว่าเป็นการดำเนินการที่ขัดกับประกาศ ธปท.และ พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 แต่กลับไม่มีการลงโทษใดๆ จึงไม่เข้าใจว่าระบบตรวจสอบของ ธปท.นั้น ใช้เกณฑ์อะไรชี้วัดความผิด จึงทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ยังคงมีพฤติกรรมโขกดอกเบี้ยเกินอัตรากับลูกหนี้ได้ต่อไป”แหล่งข่าวกล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากผู้บริหารบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ กล่าวยอมรับว่า ถูกฝ่ายตรวจสอบของ ธปท.สั่งปรับจากการปล่อยกู้ที่มีการคิดค่าบริการไม่เป็นไปตามประกาศบริษัทจริง แต่ได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และพอร์ทสินเชื่อของบริษัทไม่มีปัญหาแต่อย่างใด กรณีที่เกิดขึ้นมาจากหลักเกณฑ์ที่คลุมเครือของ ธปท. แต่ทางบริษัทยินดีทำตาม เพียงขอให้ดำเนินการตรวจสอบและปฏิบัติกับรายอื่นๆ บนมาตรฐานเดียวกันด้วย
ขณะที่แหล่งข่าวจากกลุ่มพิทักษ์สิทธิลูกหนี้ กล่าวว่า จะสอบถามไปยัง ธปท.ถึงกรณีจดหมายร้องเรียนของลูกหนี้ต่อบริษัทจำนำทะเบียนรถชื่อดัง 2-3 แห่งว่าในการตรวจสอบของ ธปท.มีความคืบหน้าอย่างไรบ้างแล้ว ทางกลุ่มพิทักษ์สิทธิลูกหนี้ต้องการให้ ธปท. ใช้เกณฑ์เดียวกันกับที่ตรวจสอบบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ด้วย
