“เคจีไอ”มองตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวเร็ว ให้กรอบเคลื่อนไหวที่ 1,600-1,650 จุดแม้ยังมีเทรดวอร์ยังเป็นตัวฉุด

 

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นประจำสัปดาห์นี้ ปัจจัยภายนอกถือว่ายังเป็นปัจจับที่มีน้ำหนักกับตลาดหุ้นไทย มากกว่าปัจจัยภายในประเทศ โดยปัจจัยหลักยังเป็นเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน (เทรดวอร์) ที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯเริ่มถอย เพราะเริ่มเห็นถึงสัญญาณเศรษฐกิจในสหรัฐฯเอง ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงครามการค้ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการส่งออกและภาคการผลิต ทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ออกมาเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไปเป็นวันที่ 15 ธันวาคมนี้แทน จากกำหนดเดิมที่จะเก็บในวันที่ 1 กันยายนนี้ บวกกับการที่สหรัฐฯได้อนุญาตให้หัวเว่ยสามารถทำธุรกิจกับทางการสหรัฐฯได้ต่อไปอีก 90 วัน ทำให้ปัจจัยสงครามการค้ามีความผ่อนคลายลง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการจบลงในครั้งเดียว

นายรักพงศ์ กล่าวว่า สำหรับราคาน้ำมันดูจะดีขึ้นจากเดิม เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯเรื่มทรงตัว จากข้อจำกัดในเรื่องของอุปกรณ์ในการผลิต อาทิ ท่อขนส่งน้ำมันต่างๆ บวกกับองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็เริ่มมีการออกมาส่งสัญญาณในการประชุมนอกรอบอีกครั้งในช่วงเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงค่อนข้างแรงในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อบวกกับปัจจัยสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลง เคจีไอคาดว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 60-65 เหรียญฯต่อบาร์เรล ในส่วนของอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม เป็นเรื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งเชื่อว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 18 กันยายนนี้ และต่อเนื่องจนถึงคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งเชื่อว่าจะมีการออกมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายนนี้เช่นกัน

“สำหรับปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ เพราะผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือจีดีพี ของประเทศไทย ตัวเลขรายงานออกมาค่อนข้างอ่อนแอ อยู่ที่ 2.3% ในขณะเดียวกันภาครัฐก็ตอบสนองสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ด้วยการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ซึ่งคาดหวังเม็ดเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท ทำให้เชื่อว่าจีดีพีในครึ่งหลังของปีนี้จะเร่งตัวขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แรงมากนัก เพราะเชื่อว่าน่าจะผ่านพ้นจุดที่แย่ที่สุดในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาแล้ว ส่วนกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ หันกลับมาเน้นหุ้นปันผลสูง และหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการของภาครัฐ เนื่องจากเคจีไอมองตลาดหุ้นในช่วงนี้ จะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบแคบ เพราะในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวหลุดระดับ 1,600 จุด ซึ่งเคจีไอมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม โดยตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นมาได้ค่อนข้างเร็ว ถึงแม้ปัจจัยภายนอกจะยังไม่ชัดเจนมากนัก ซึ่งเคจีไอให้กรอบเคลื่อนไหวไว้ที่ระดับ 1,600-1,650 จุด”นายรักพงศ์กล่าว

Advertisement

ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image