นางสาวสิริธิดา พนมวันณอยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่าธปท. ได้มีการเปิดเผยข้อมูลสถิติระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขัดข้องของธนาคารพาณิชย์ในช่องทางการให้บริการหลัก ได้แก่ โมบายแบงกิ้ง อินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง เครื่องถอนเงินอัตโนมัติ(เอทีเอ็ม)และเครื่องฝากเงินอัตโนมัติ(ซีดีเอ็ม) และสาขาเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบคุณภาพการให้บริการของธนาคารพาณิชย์ในเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และได้รับการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อระบบเกิดเหตุขัดข้อง โดยจะเปิดเผยเป็นประจำทุกไตรมาสเปิดเผยบนเว็บไซต์ของธนาคารพาณิชย์และธปท. เริ่มเปิดเผยข้อมูลของไตรมาส2 ปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป พบว่า ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขัดข้องรวม 8 ธนาคารจากทั้งหมด 22 ธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทยขัดข้องมากที่สุด 11 ครั้งโดยเป็นโมบายแบงกิ้งขัดข้อง 7 ครั้งอินเตอร์เน็ตแบงกิ้งขัดข้อง 2 ครั้งเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ(เอทีเอ็ม)และเครื่องฝากเงินอัตโนมัติ(ซีดีเอ็ม) ขัดข้อง 1 ครั้งช่องทางสาขาขัดข้อง 1 ครั้งรองลงมาคือธนาคารกรุงเทพและธนาคารทหารไทยที่ขัดข้อง 8 ครั้งเท่ากัน โดยธนาคารกรุงเทพโมบายแบงกิ้งขัดข้อง 5 ครั้ง อินเตอร์เน็ตแบงกิ้งขัดข้อง 2 ครั้ง เอทีเอ็มและซีดีเอ็มขัดข้อง 1 ครั้ง ส่วนธนาคารทหารไทย โมบายแบงกิ้งขัดข้อง 4 ครั้ง อินเตอร์เน็ตแบงกิ้งขัดข้อง1 ครั้ง เอทีเอ็มและซีดีเอ็มขัดข้อง2 ครั้ง และสาขาขัดข้อง1 ครั้งขณะที่ธนาคารธนชาตขัดข้อง 5 ครั้ง โมบายแบงกิ้งขัดข้อง 4 ครั้ง อินเตอร์เน็ตแบงกิ้งขัดข้อง1 ครั้ง เอทีเอ็มและซีดีเอ็มขัดข้อง 2 ครั้ง และสาขาขัดข้อง 1 ครั้ง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เอทีเอ็มและซีดีเอ็มขัดข้อง 2 ครั้งธนาคารธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย โมบายแบงกิ้งขัดข้อง 2 ครั้ง ธนาคารทิสโก้โมบายแบงกิ้งขัดข้อง 1 ครั้ง และธนาคารไทยเครดิตเพื่อนรายย่อย เอทีเอ็มและซีดีเอ็มขัดข้อง1 ครั้ง
นางสาวสิริธิดา กล่าวว่า สำหรับอีก 14 ธนาคาร ไม่มีเหตุการณ์บริการขัดข้อง ได้แก่ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียตรนาคิน เจพีมอร์แกน เชส ธนาคารซิตี้แบงก์ ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอปอร์เรชั่น ธนาคารไทยพาณิชย์ เมกะ สากล พาณิชย์ ธนาคารยูโอบี ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ธนาคารแห่งประเทศจีน(ไทย) อาร์เอชบี อินเดียนโอเวอร์ซีส์โอเวอร์ซี–ไชนีสแบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น และธนาคารซีไอบีซี(ไทย)
“การดำเนินการดังกล่าวสอดรับกับที่ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์เน้นให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ของประชาชนที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการใช้บริการเห็นได้จากปริมาณธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง2 ปีที่ผ่านมาซึ่งการให้บริการอย่างต่อเนื่องถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดการยอมรับและนำไปสู่การให้บริการผ่านระบบดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ” นางสาวสิริธิดากล่าวว่า
นางสาวสิริธิดากล่าวว่าประชาชนสามารถติดตามได้ที่BOT Website (www.bot.or.th) หัวข้อ“เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์/คุณภาพบริการทางการเงิน” และเลือก“สถิติระบบขัดข้องผ่านบริการสำคัญ” ทั้งนี้หากมีข้อสอบถามเพิ่มเติมประชาชนสามารถสอบถามได้ที่ธนาคารพาณิชย์โดยตรงหรือสอบถามศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินธปท. โทร. 1213
