วันที่1 กันยายน 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่บริเวณด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ เพื่อสำรวจจุดเชื่อมไทย-มาเลเซียและประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างไทย-มาเลเซีย ที่ ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา มี นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายจุรินทร์กล่าวว่า การประชุมหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และภาคเอกชนซึ่งได้มีการหารือในประเด็นสำคัญอยู่หลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของด่านสะเดา ซึ่งเป็นช่องทางในการขนส่งสินค้าเข้าออกระหว่างไทย-มาเลเซีย และเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว ทางด่านสะเดายังเป็นด่านที่มีช่องทางการตรวจลงตราที่จำกัด ที่ทำให้การส่งออกของไทยไปมาเลเซียยังมีปัญหาอุปสรรค
“นักท่องเที่ยวมาเลเซียที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านด่านสะเดายังมีความไม่สะดวก วันนี้ที่ประชุมได้ข้อสรุปที่จะแก้ปัญหาเบื้องต้น 2 ประเด็น ประเด็นแรกทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะเพิ่มบุคลากรและเร่งฝึกอบรมในการดำเนินการและทำให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวสะดวกโดยเร็วที่สุดซึ่งจะเริ่มต้นได้ทันที ประเด็นที่ 2 คือการเพิ่มช่องทางในการเดินรถเข้า-ออก จาก 4 ช่อง เป็น 6 ช่อง”นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวว่า มีเรื่องของด่านแห่งใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงเดือนตุลาคม 2562 สิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไปคือถนนที่จะเชื่อมระหว่างด่านใหม่กับทางด่านฝั่งมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างกำหนดเส้นทาง เมื่อได้ข้อสรุปก็จะมีการดำเนินการที่จะก่อสร้างให้เสร็จสิ้นโดยเร็วต่อไป
“การเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย ได้ข้อสรุปว่าจะมีการจัดเวทีโดยให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพเพื่อให้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างนักธุรกิจจาก 5 รัฐ ของมาเลเซียและนักธุรกิจของไทยรวมทั้งผู้ส่งออกของไทยใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดการทำสัญญาซื้อขายอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เบื้องต้นจะกำหนดจัดในช่วงปลายเดือนตุลาคม”นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวว่าด่านสะเดาเป็นด่านศุลกากรชายแดนที่มีมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกสินค้าสูงที่สุดในประเทศไทย แต่ละปีเฉลี่ยกว่า 300,000 ล้านบาท เป็นประตูเชื่อมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของไทย รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับด่านสะเดา ในฐานะอีกจุดยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจสำคัญโดยมีเป้าหมายที่จะให้ด่านศุลกากรสะเดา สามารถรองรับการให้บริการที่มีประสิทธิภาพเพียงพอกับปริมาณการค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
