สภาพัฒน์เผยหนี้ครัวเรือนไทย13 ล้านลบ. แตะ78.7% ต่อจีดีพีสูงสุดรอบ9 ไตรมาสจับตาหนี้เสียขยับเพิ่มใกล้ชิด (มีคลิป)

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือน  ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี2562  อยู่ที่ 13 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น 6.0% เทียบกับไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 6.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนโดยคิดเป็นสัดส่วน 78.7% ต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) สูงสุดรอบ 9 ไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี2560 โดยหนี้ครัวเรือนไทยสูงเป็นอันดับ 2 เทียบกับประเทศเอเชีย 22 ประเทศและอยู่ในลำดับที่ 11 จาก74 ประเทศทั่วโลก โดยการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนมาจากทั้งสถาบันรับฝากเงินซึ่งสินเชื่อเติบโตขึ้น 5.7% โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคได้อก่สินเชื่อยุคคลบัตรเครดิตสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถยนต์เป็นต้นรวมทั้งสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่นที่ขยายตัวสูงถึง 10.8% ด้านแนวโน้มคุณภาพสินเชื่อพบว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพในภาพรวมเพิ่มขึ้นต้องติดตามอย่างใกล้ชิดโดยยอดหนี้คงค้างที่ไม่ก่อให้เอกรายได้(เอ็นพีแอล) เพื่อการอุปโภคบริโภคในไตรมาสที่1 ปี2562 อยู่ที่1.26 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น9.0% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนคิดเป็นสัดส่วน27.84% ต่อเอ็นพีแอลรวมและคิดเป็น2.75% ของสินเชื่อรวมซึ่งพบว่าไตรมาสที่2 ปี2562 เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตมาอยู่ที่1.27 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น10% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนคิดเป็นสัดส่วน28.28% ต่อเอ็นพีแอลรวมและคิดเป็น2.74% ของสินเชื่อรวม

ผู้บริหาร สศช.

นายทศพร กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีหากเศรษฐกิจเป็นไปตามที่สภาพัฒน์คาดการณ์และจีดีพีปี2562 ที่เติบโต3% และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่จะมีการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อคาดว่าระดับหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีจะไม่ระดับ80% ซึ่งหนี้ครัวเรือนไทยที่ระดับนี้ถือว่าทรงๆตัวใกล้เคียงในอดีตแต่ยังต้องติดตามแนวโน้มคุณภาพสินเชื่อในระยะต่อไปว่าจะเป็นอย่างไรส่วนการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยไม่น่าจะส่งผลกระตุ้นให้สินเชื่อเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเพราะเป็นการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวส่วนกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อหนี้เพิ่มมีมาตรการการกำกับสถาบันการเงินภาพรวม(แมคโครพรูเด็นเชียล) ดูแลอยู่แล้ว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image