จอดป้ายประชาชื่น : เลิกผ่อน0%สกัดหนี้?

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คงจะได้ยินข่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินต่างๆ ให้เหตุที่ต้องออกมาขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินต่างๆ เพราะการก่อหนี้ที่เกิดขึ้น นอกจากความต้องการอยากได้ อยากซื้อ อยากมีเหมือนคนอื่นของผู้บริโภคเองแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคผ่านการจัดโปรโมชั่น ทั้งจากสถาบันการเงินและห้างร้านต่างๆ อาทิ การผ่อนชำระ 0% เป็นระยะเวลาต่างๆ เช่น 3-6-10 เดือน ในกลุ่มสินค้าราคาสูง อาทิ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์ไอที กล้องถ่ายรูป คอร์สเสริมความงาม กระเป๋าและเสื้อผ้าแบรนด์เนม รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศที่สามารถใช้จ่ายไปก่อนแล้วสามารถนำยอดเงินมาแบ่งชำระได้

กระตุ้นให้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขึ้นมาที่อยู่ในระดับสูง ซึ่ง ธปท.ระบุข้อมูลว่า  ครัวเรือนไทยก่อหนี้สูงกว่ารายได้ถึง 130-140% ส่วนสำคัญเพื่อการบริโภค ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต สัดส่วนรวมคิดเป็น 37% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด ซึ่งหนี้ส่วนนี้แต่ละปีเติบโตสูงมากกว่า 10% หากเทียบกับระดับรายได้ที่อาจจะเพิ่มขึ้นเพียง 3-5% หรืออาจจะไม่เพิ่มขึ้นเลย

แม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นน้อยแต่ประชาชนกลับกล้าใช้จ่ายเชื่อว่าตนเองได้ประโยชน์ เพราะหากแบ่งผ่อนชำระรายเดือนได้ 0% จะไม่ต้องเสียเงินก้อนโตในการใช้จ่าย ยังเหลือเงินไว้ใช้บริโภคและจับจ่ายได้อีก และไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในการใช้จ่ายด้วย แต่อีกนัยหนึ่งคือจะยิ่งสะสมหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และมีระยะเวลาการต้องผ่อนชำระผูกพันกับสถาบันการเงินไปเป็นระยะเวลานานจนกว่าจะครบกำหนดผ่อนชำระ ขณะที่หนี้ใหม่ก่อเพิ่มขึ้นได้อีก จึงมีความเสี่ยงต่อการชำระหนี้คืน

เป็นเรื่องดีที่สถาบันการเงินต่างๆ ออกมารับสารที่ ธปท.สื่อออกมา และจะลดการออกแคมเปญกระตุ้นเหล่านี้ลง น่าจะช่วยลดการกระตุ้นหรือจูงใจการก่อหนี้ลงได้บ้าง เรียกว่าเป็นการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดรับชอบมากขึ้นจากฝั่งผู้ให้กู้

Advertisement

แต่นี่ไม่ใช่ต้นเหตุที่สำคัญสุด ต้องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนให้มีวินัยการเงิน มีการวางแผนการเงินและการใช้จ่าย มีการออมก่อนใช้ แต่หากถามว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของใคร วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.ให้ความเห็นว่า ทั้งในฝั่งครัวเรือนที่เป็นผู้กู้ ฝั่งสถาบันการเงินผู้ให้กู้ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องตระหนักและเริ่มที่ตนเอง เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาหนี้ก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาเศรษฐกิจกลับมากระทบทุกภาคส่วน!

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image