กรุงศรีออโต้เปิดระบบอีคอนเซ็นท์หนุนดิจิทัลเลนดิ้ง มั่นใจคาร์ฟอแคชดันสินเชื่อโตดี

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือกรุงศรีออโต้ เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดรถยนต์ใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 คาดว่าจะชะลอตัวลงบ้างตามภาวะเศรษฐกิจประเทศ โดยช่วงครึ่งปีแรกยอดขายรถยนต์ใหม่เติบโตดีมากกว่า 10% แต่เริ่มเห็นสัญญาณช่วงไตรมาส 3 นี้ เติบโตเพียง 4% อย่างไรก็ดี การเติบของสินเชื่อยานยนต์ของกรุงศรีออโต้ยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีการปล่อยสินเชื่อทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ รวมทั้งรถแลกเงิน(คาร์ฟอร์แคช) โดยกรุงศรีออโต้ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาท และสินเชื่อคงค้างปีนี้ที่ 4.1 แสนล้านบาท จากเดิมที่คาดยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 2.0 แสนล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 4.0 แสนล้านบาท

ไพโรจน์ ชื่นครุฑ

นายไพโรจน์  กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายของปี  3-4 เดือนที่เหลือ คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตตามเป้าหมาย  โดยการเติบโตของสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมาพบว่าสินเชื่อคาร์ฟอร์แคชเติบโตดีต่อเนื่อง และล่าสุดสามารถขอสินเชื่อคาร์ฟอร์แคชผ่านดิจิทัลเลนดิ้งได้ จากที่ก่อนหน้านี้เป็นดิจิทัลเลนดิ้งในส่วนของสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังอยู่ในระดับต่ำ จากเข้มงวดในการให้สินเชื่อที่พิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ตามสถานการณ์หนี้ครัวเรือนสูง ทำให้คุณภาพสินเชื่อยังดี เอ็นพีแอลไม่เกิน 2.0% คาดว่าทั้งปีนี้จะอยู่ไม่เกินระดับนี้ ทั้งนี้ กรุงศรีออโต้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนงานปี 2563 โดยยังต้องรอประเมินภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจ(จีดีพี) รวมทั้งสถานการณ์ตลาดรถยนต์ก่อน

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ขณะนี้ช่องทางการปล่อยสินเชื่อของกรุงศรีออโต้เน้นช่องทางออนไลน์(ดิจิทัล เลนดิ้ง) มากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มหลักคือพร้อมสตาร์ท โดยสามารถขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่ รถจักรยานยนต์ใหม่ รวมทั้งคาร์ฟอร์แคชทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ และสามารถซื้อประกันยานยนต์ได้  ซึ่งล่าสุดได้เปิดให้บริการระบบให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์(อีคอนเซ็นท์) ผ่านระบบออนไลน์ จากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ถือเป็นรายแรกในตลาดยานยนต์ ช่วยให้ดิจิทัลเลนดิ้ง มีความแม่นยำ ปลอดภัย และรวดเร็ว โดยระบบจะอ่านข้อมูลบนหน้าบัตรประชาชนของลูกค้าและปรากฏขึ้นในแบบฟอร์มออนไลน์เพื่อยินยอมการเปิดเผยข้อมูลโดยอัตโนมัติ สามารถปิดช่องโหว่จากการกรอกข้อมูลผิดพลาดด้วยมือ ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ ยังช่วยป้องกันการขโมยหรือปลอมแปลงเอกสารเพื่อนำมาทำธุรกรรม เพราะระบบจะตรวจสอบสถานะของบัตรประชาชนที่นำมาขอสินเชื่อผ่านฐานข้อมูลของกรมการปกครองว่าเป็นบัตรที่ใช้งานอยู่จริง และลูกค้าจะต้องเป็นผู้กรอกรหัสยืนยันทางโทรศัพท์ พร้อมกดยืนยันการเปิดเผยข้อมูลด้วยตนเอง ได้เริ่มนำร่องมาใช้สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว และเริ่มขยายไปยังจังหวัดหลักในภูมิภาคและขยายทั่วประเทศครบในช่วงปลายปี 2562 นี้ ทั้ง 52 สาขา โดยมีการสมัครขอสินเชื่อและมีการตรวจสอบเครดิตบูโรผ่านระบบอีคอนเซ็นราว 400 ราย ตั้งแต่ที่เปิดมาราว 1 สัปดาห์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image