ผู้เขียน | นายมะดัน |
---|
ธุรกิจออนไลน์นับว่าเป็นธุรกิจที่ใช้ทุนน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจประเภทอื่น ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักๆ นั้นมีค่าบริการอินเตอร์เน็ต ค่าใช้จ่ายในการโปรโมต และทุนในการสต๊อกสินค้าเท่านั้น
ทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำนวนไม่น้อยตัดสินใจจ่ายเงินเพื่อซื้อ “คนไลค์” และ “ฟอลโลเวอร์” แต่จะคุ้มเหรอ คิดใหม่ได้นะ ถ้าหากว่าเราต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากในการซื้อทั้งสองอย่างนี้ แต่ว่าขาดปฏิสัมพันธ์และฟีดแบ๊กกลับมา เพราะ
1.คนที่อยากโตเร็วๆ ก็พยายามจ่ายเงินในทุกสิ่ง รวมทั้งการจ่ายเพื่อซื้อ “คนไลค์” และ “คนที่เป็นฟอลโลเวอร์” แต่ดูเหมือนต้องเผชิญความจริงที่ปวดใจว่าการซื้อคนที่กดชอบเพจ หรือคนกดติดตามเพจเรานั้น จะเป็นแค่บอทที่ไม่มีตัวตน หรือแอ๊กเคาต์ที่ไม่ได้ใช้งานเพจของเราจริงๆ
2.และเมื่อพวกเขาเห็นโพสต์ของเราในฟีดข่าว เขาก็ไม่หือไม่อือกับโพสต์ของเราใดๆ ทั้งสิ้น แล้วมันจะมีความหมายอะไรกับเงินที่เราจ่ายไปแล้ว
3.ว่ากันว่า ผู้ชมเพจที่แท้จริงซึ่งให้ความสำคัญกับเนื้อหาหรือแบรนด์ของเรานั้นมีเพียง 6.5% เท่านั้นเอง นอกจากนี้ใน 6.5% ที่ติดตามเพจของเรา ดูเหมือนจะไม่หือไม่อือ หรือมีการโต้ตอบอะไรกับเพจของเราอีกด้วย
4.การที่จะฉุดใจแฟนที่แท้จริงเหล่านี้ ไม่ว่าเราจะมีผู้ติดตาม 100 คน หรือ 100,000 คน เป้าหมายควรเหมือนกัน และการจ่ายเงินในบางกรณีก็มีประโยชน์เหมือนกัน
5.จำนวน “ไลค์” เยอะๆ จะดูน่าเชื่อถือมากขึ้น เมื่อคนที่จะมาเป็นแฟนเพจตัวจริงเห็น
6.ขณะเดียวกัน โพสต์ที่ได้รับการบูสต์ ก็ดูมีประโยชน์มากกว่าการซื้อคนไลค์หรือคนติดตามเพิ่ม
7.นักวิจัยด้านสื่อและนักเขียนเน้นว่า การบูสต์โพสต์ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม อย่าง ไลค์ แชร์ คอมเมนต์ และอื่นๆ ต่างจากการจ่ายเงินเพื่อเพิ่มจำนวนคนไลค์หรือคนติดตาม เพราะไม่รู้ว่าแอ๊กเคาต์ที่ซื้อมาจะถูกใจสิ่งที่อยู่ในเพจของเราหรือไม่ แต่ว่าการบูสต์โพสต์การันตีการมีปฏิสัมพันธ์ในโพสต์นั้นๆ จากแฟนเพจตัวจริงได้
ที่สำคัญคือ การจ่ายเงินเพื่อซื้อ “คนไลค์” และ “ฟอลโลเวอร์” ถือเป็นการทำผิดกฎของเฟซบุ๊ก และเฟซบุ๊ก ไม่ชอบเรื่องนี้เอามากๆ ซะด้วย อาจทำให้เพจของคุณถูกปิด และเสียเงินโดยใช่เหตุ
คิดผิด คิดใหม่ ก่อนที่เพจคุณจะหายลับไปกลับตา ด้วยความปรารถนาดีจาก “ดิจิเทรนด์ฟอร์เวิร์ด”