นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การร่วมมือระหว่างขบ. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในการพัฒนาระบบ เพื่อรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์แบบออนไลน์ โดยได้ทำการทดสอบการเชื่อมโยงระบบบริหารจัดการใบสั่งจราจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 หน่วยงานเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนของใบสั่ง และทำให้ขบ.สามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งแทนตร.ได้
“เบื้องต้นได้กำหนดให้ใช้จริงในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เนื่องจากยังต้องร่างระเบียบร่วมกัน จึงยังมีเงื่อนเวลาอยู่ ทำให้ต้องเผื่อเวลาไว้ จึงต้องเลื่อนวันใช้จริงออกไปจากกหนดเดิม รวมถึงเพื่อให้สามารถใช้งานได้พร้อมกับพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 ที่จะออกมาไล่เลี่ยกันด้วย โดยในส่วนของระบบปฎิบัติงาน ขณะมีความพร้อมที่จะใช้งานจริงแล้วทั้ง 100% รวมถึงมีการทดสอบการลิงก์ใบสั่งระหว่าง 2 หน่วยงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มีความพร้อมที่สุดในการรอใช้งานจริง ซึ่งความพร้อมตอนนี้เหลือเพียงประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนเท่านั้น ที่เหลือเตรียมพร้อมหมดแล้ว”นางจันทิรากล่าว
นางจันทิรา กล่าวว่า ขณะได้มีการพัฒนาระบบให้เชื่อมโยงกันทั้ง 3 ส่วนคือ ขบ. ตร. และธนาคารกรุงไทย เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ทั้ง 3 หน่วยงาน โดยขบ.จะสามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งค้างชำระแทนตร.ได้ ซึ่งผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถชำระค่าปรับ พร้อมกับชำระภาษีประจำปี ได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ในส่วนของตร. จะมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นขึ้น เพื่อให้ประชาชนผู้รับใบสั่ง สามารถตรวจสอบจำนวนใบสั่งที่ถูกเขียนทั้งหมด และสามารถเตรียมค่าปรับให้เพียงพอ ในการชำระภาษีรถประจำปี พร้อมทั้งเสียค่าปรับจากใบสั่งที่ได้รับทั้งหมด รวมถึงได้จัดทำเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชนคือ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ เพื่ออำนวยความสะดวกให้อีกช่องทางด้วย
นางจันทิรา กล่าวว่า หากประชาชนต้อการชำระภาษีประจำปี แต่ยังไม่พร้อมชำระค่าปรับค้างชำระตามใบสั่ง ขบ.จะออกใบเสร็จแสดงการเสียภาษีฉบับชั่วคราวให้ใช้ได้ 30 วัน เพื่อให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถไปชำระค่าปรับได้เรียบร้อยก่อน โดยหากชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้ว สามารถนำหลักฐานใบเสร็จการชำระค่าปรับมาแสดง เพื่อรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ฉบับจริงได้ภายหลัง ส่วนในกรณีที่ชำระภาษีประจำปีแล้ว แต่ไม่ชำระค่าปรับค้างชำระให้ครบถ้วนในระยะเวลากำหนด เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานจราจรตำแหน่งตั้งแต่สารวัตรขึ้นไปมีหนังสือแจ้งนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก ให้งดออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีรถคันนั้น และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่พนักงานสอบสวนต่อไป
นางจันทิรา กล่าวว่า การร่วมมือดังกล่าวเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์แบบออนไลน์ เพื่อให้ก้าวทันโลกแห่งยุคเทคโนโลยี และเป็นการพัฒนาให้การใช้งานกับคนใช้งาน สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างสอดคล้องกันมากที่สุด นอกจากนี้ กรณีที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ หลีกเลี่ยงการชำระค่าใช้สั่งค้างชำระ ด้วยการเลี่ยงไม่ต่อทะเบียนรถ จะถือเป็นการเลี่ยงการเสียภาษี ซึ่งมีโทษหนักมากกว่าการชำระค่าปรับตามใบสั่งแน่นอน จึงอยากฝากให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ปฎิบัติตามกฎหมาย และมีจิตสำนึกที่ดีต่อส่วนรวม เพื่อไม่ให้ถูกเขียนใบสั่ง และต้องชำระค่าปรับเป็นจำนวนครั้งละมากๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากปล่อยให้ทะเบียนรถยนต์ขาด หรือภาษีรถยนต์ขาดอายุ จะต้องเสียค่าปรับในการชำระภาษีย้อนหลัง 1% ต่อเดือนจนถึงวันชำระ โดยหากขาดการต่อทะเบียนไม่ถึง 3 ปี ทะเบียนรถยนต์จะยังไม่ถูกระงับ ยังสามารถทำการต่อทะเบียนรถยนต์ได้ตามปกติ แต่จะต้องเสียค่าปรับในการจ่ายภาษีย้อนหลังเดือนละ 1% แต่หากเจ้าของรถไม่ได้ต่อทะเบียนรถยนต์หรือไม่ได้ชำระภาษี เป็นเวลานานกว่า 3 ปี จะทำให้ทะเบียนรถยนต์ถูกระงับ ซึ่งจะต้องทำการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ โดยเจ้าของรถจะต้องคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถและเล่มทะเบียนรถ กลับคืนมาให้ทางราชการบันทึกการระงับทะเบียนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนดำเนินการ ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับไม่เกิน 1,000 บาท เมื่อดำเนินการเสร็จจึงจะสามารถยื่นขอจดทะเบียนใหม่ได้ พร้อมกับชำระภาษีที่ค้าง 3 ปี และค่าปรับ 1% ต่อเดือนจนถึงวันชำระต่อไป
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
