จอดป้ายประชาชื่น : การตลาดเชิงรุก

กรณี สงครามทางการค้า (เทรดวอร์) ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องที่ไม่มีท่าทีจะจบลงง่ายๆ และยังเป็นปัจจัยในการกระตุ้นให้บริษัทที่ลงทุนในจีนพยายามหาทำเลทองใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ โดยทำเลในแถบเอเชียพบว่า ไทยและเวียดนามเนื้อหอมพอกัน จนทำให้ไทยต้องพยายามใช้ยุทธวิธีดึงนักลงทุนมาไทย       ถ้าเพลี่ยงพล้ำอาจโดนเวียดนามคว้านักลงทุนไปต่อหน้า

ประเด็นนี้กระทรวงอุตสาหกรรมไม่รอช้า เมื่อเร็วๆ นี้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวง และผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เดินทางไปหารือ    นักลงทุนไทย เพื่อเทียบสิทธิประโยชน์การลงทุนระหว่างไทยและเวียดนาม และทำงานร่วมกับบีโอไอ จัดทำ แพคเกจไทยแลนด์ พลัส 7 ด้าน ได้แก่ ด้านสิทธิประโยชน์ ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการตัดสินใจ ด้านการพัฒนาศักยภาพคน ด้านความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ด้านการจัดเตรียมและจัดหาที่ดิน ด้านการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตลาด และด้านการสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน ก่อนเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานขับเคลื่อน

ในการประชุมบอร์ดบีโอไอทราบว่า กระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งต่อที่ประชุมจะเร่งรัดการเชื่อมโยงฐานข้อมูล  ที่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และการจัดหาและพัฒนาพื้นที่เฉพาะเพื่อรองรับการลงทุนที่สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนต่างชาติแต่ละประเทศเป็นการเฉพาะ ขณะเดียวกันได้กระทุ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินตามแพคเกจ ไทยแลนด์ พลัสให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตซึ่งเกิดขึ้นจากผลกระทบของเทรดวอร์

นอกจากนี้ ยังเสนอมาตรการด้านการตลาดเชิงรุกดึงนักลงทุนเป้าหมาย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลี  ที่ต้องการย้ายฐาน ให้ทราบข้อมูลจุดแข็งของการลงทุนในประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะข้อมูลที่ว่าหากลงทุนในประเทศคู่แข่งไทยจะต้องเจอกับความเสี่ยงสูง คือ เข้มงวดทั้งการตรวจสอบมาตรฐานของสินค้านำเข้า เพราะอาจมีความเสี่ยงผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งมาตรการที่เข้มงวดก็เพื่อป้องกันไม่ให้การใช้สินค้าเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนภายในประเทศของผู้นำเข้า

Advertisement

ไม่ระบุชัดๆ ว่าประเทศคู่แข่งคือประเทศอะไร แต่ถือเป็นกลยุทธ์เชิงลึก แบบตาต่อตาฟันต่อฟันเลยทีเดียว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image