ธปท.ยันแบงก์แกร่งพร้อมรับTFRS9 ใช้ปี’63 แม้สำรองหนี้เพิ่ม

นางสาวยุพิน เรืองฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายธุรกิจและบัญชีสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่าขณะนี้ธนาคารพาณิชย์มีความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีสำหรับเครื่องมือทางการเงิน(TFRS 9) ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่1 มกราคม2563 แล้วซึ่งจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องมีสำรองหนี้เพิ่มมากขึ้นตามเกณฑ์ใหม่แต่คาดว่าจะไม่กระทบธนาคารพาณิชย์เพราะได้มีการเตรียมความพร้อมมาแล้วก่อนหน้านี้และรวมคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจปี2563 ไว้แล้วซึ่งปัจจุบันธนาคารพาณิชย์มีการสำรองหนี้เฉลี่ยทั้งระบบถึง150% อย่างไรก็ดีอัตราส่วนทางการเงินภายใต้TFRS 9 อาจเปลี่ยนแปลงไปเช่นส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(นิม) ที่อาจกว้างขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยแต่การที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องสำรองหนี้เพิ่มขึ้นจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิตามเกณฑ์ใหม่จะไม่เปลี่ยนแปลง รวมทั้ง ต้องเตรียมตัวรองรับผู้สอบบัญชีตรวจความน่าเชื่อถือในการตั้งสำรองหนี้ เป็นต้น

นางสาวยุพิน กล่าวว่า สำหรับTFRS 9 ได้ปรับเปลี่ยนหลักการสำคัญโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกันเงินสำรองหนี้จากเดิมประมาณการณ์หนี้เสียจากปัจจุบันที่ปล่อยสินเชื่อไปเป็นกำหนดให้กันสำรองให้ครอบคลุมถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่อาจส่งผลกระทบต่อลูกหนี้โดยพิจารณาถึงสถานะของลูกหนี้ออกเป็น3 กลุ่มกลุ่มที่1 คือลูกหนี้ปกติหรือความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันแรกของการให้สินเชื่อให้กันเงินสำรองรองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นภายใน1 ปีข้างหน้าส่วนลูกหนี้กลุ่มที่2  ลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่1-3 เดือน(เอสเอ็ม) หรือมีความเสี่ยงการชำระหนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และกลุ่มที่3 กลุ่มผิดนัดชำระหนี้ที่เป็นหนี้ที่ไม่เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ให้กันเงินสำรองรองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นตลอดอายุของลูกหนี้ซึ่งแตกต่างจากหลักการเดิมที่ให้กันเงินสำรองเมื่อเกิดการเป็นเอ็นพีแอลแล้วเท่านั้นซึ่งเดิมธนาคารพาณิชย์จะกันเงินสำรองตามอัตราที่ธปท. กำหนดโดยลูกหนี้ชั้นปกติ 1% ลูกหนี้เอสเอ็ม 2% และลูกหนี้เอ็นพีแอล 100% ด้านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่อยู่ใต้การกำกับของภาครัฐมีพันธกิจเฉพาะและมีพระราชบัญญัติจัดตั้งแต่ละแห่งคาดว่าจะทยอยปฏบัติตามTFRS 9 ภายใน5 ปี หรือภายในปี2568

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image