‘กคช.’ ดัน 10 มาตรการเร่งด่วนกระตุ้นลงทุน 13 โครงการมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท

นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วนของกรรมการชุดใหม่ ที่ต้องการผลักดันการทำงานของกคช. ภายใต้แนวคิด เอ็นเอชเอ บิ๊กแบง ประกอบด้วย 10 มาตรการหลักทั้งการลงทุนในอนาคตและสะสางปัญหาเดิม ซึ่งมาตรการได้แบ่งการทำงานเป็น 3 หมวดหลัก ได้แก่ ลงทุนเพื่อประชาชน, เข้าชนปัญหาสะสม และระดมพลมาตรฐานใหม่เคหะ

ทั้งนี้ ในแต่ละหมวดก็มีโครงการที่ต่างกันไป ซึ่งโครงการที่ กคช. ต้องการที่จะผลักดันให้มากขึ้น อาทิ การเร่งรัดโครงการร่วมทุนรัฐและเอกชน (พีพีพี) จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการระดับชาติบางส่วน และบางส่วนเป็นหน้าที่ของกรรมการการเคหะแห่งชาติชุดใหม่ โดยโครงการมีทั้งรูปแบบที่อยู่อาศัยปกติ บ้านพักสำหรับผู้เกษียรอายุ และโครงการอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ผู้อาศัย และโครงการบ้านราคา 3-5 แสนบาท ที่จะทำการเปิดต้นแบบภายในปี 2562 โดยจะเจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งจะออกแบบให้มีความทันสมัยและมีมาตรฐานกว่าการก่อสร้างรูปแบบเดิม

นอกจากนี้ กคช. จะเน้นการเพิ่มมูลค่าพื้นที่จัดสรรประโยชน์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อาทิ การเพิ่มศักยภาพบริษัทจัดการทรัพย์สินและชุมชนจำกัด (เซ็มโก้) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเพียงแห่งเดียวของการเคหะแห่งชาติ โดยได้จัดทำเป็นแผนเร่งด่วนแก้ปัญหาขาดทุนสะสม และหามาตรการขยายธุรกิจโดยใช้ความได้เปรียบของการเคหะที่มีหน่วยที่อยู่อาศัยจำนวนมาก โดยได้เริ่มดำเนินการจัดทำแผนงานปรับโครงสร้างองค์กรและแผนธุรกิจใหม่ คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2563 อีกทั้งยังได้วางแนวทางนำ เซ็มโก้ เข้าตลาดหลักทรัพย์ใน 3 ปี

อย่างไรก็ตาม กคช. เชื่อมั่นว่ามาตการที่จัดทำขึ้นจะทำให้การเคหะสามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างชัดเจน รวมไปถึงสะสางปัญหาค้างเก่าซึ่งทำให้การเคหะเสียภาพลักษณ์ และมีผลกระทบต่อประชาชนไปในเวลาเดียวกัน โดยมีการกำหนดกรอบเวลาติดตามผลอย่างชัดเจน สำหรับในปี 2562 จะมีการรายงานผลการปฎิบัติตามมาตรการณ์ตามกรอบระยะเวลา 30 วัน 60 วัน และ 90 วัน ต่อคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติเพื่อให้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image