สัปดาห์ก่อนรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนรวม 2.24 แสนล้านบาท ได้ฤกษ์เซ็นสัญญาไปแล้ว เมื่อก่อสร้างเสร็จก็จะกลายเป็นไฮสปีดเทรนสายที่ 2 ของไทย
สำหรับสายแรกที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง คือ รถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นคราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 1.79 แสนล้านบาท แบ่งการก่อสร้างเป็น 14 ตอน
ล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่างานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 ตอน เป็นที่น่าพอใจ คือ ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ก้าวหน้า 70% คาดว่าจะแล้วเสร็จมีนาคม 2563 และช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. ก้าวหน้า 5.38%
ยังมีอีก 2 ตอนที่อยู่ระหว่างรอลงนามก่อสร้าง คือ ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.80 กม. และช่วง นวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม.
ส่วนอีก 3 ตอน อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. และพิจารณาคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประกวดราคาว่าถูกต้องตามเงื่อนไขการประกวดราคาหรือไม่ คือ 1.ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. 2.ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กม. และ 3.ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กม.
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างประมูล 6 สัญญา คือ 1.ช่วงอุโมงค์ (มวกเหล็กและลำตะคอง) 2.ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง 3.ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา 4.ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว 5.ช่วงสระบุรี-แก่งคอย และ 6.ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย
ดังนั้นจะเหลือ 1 ตอน คือ ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ที่รอหารือกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินก่อน เพราะบางช่วงใช้เขตทางร่วม
ขณะที่สัญญา 2.3 ซึ่งเป็นงานระบบราง ระบบฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร บอร์ด รฟท.มีมติให้เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินสัญญาจากเดิมที่อนุมัติไว้ 38,558.38 ล้านบาท เป็น 50.633.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12,075.50 ล้านบาท แต่ยังอยู่ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ 1.79 แสนล้านบาท เนื่องจากได้ย้ายขอบเขตงานระบบที่ซ้อนทับอยู่ในขอบเขตของงานโยธาออกมา
ขณะเดียวกันยังมีการเปลี่ยนรุ่นขบวนรถไฟจากรุ่น CHR 2G (Hexie Hao) ที่จีนจะเลิกผลิตแล้ว เป็นรุ่น CR Series (Fuxing Hao) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยล่าสุด โดยจะลงนามกับจีนในช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิท ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
ส่วนจะเปิดเดินรถได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ยังต้องตามลุ้น!!
นายขันตี
