‘รีวิน’ ชี้ รัฐต้องอุดหนุนโอเปอเรเตอร์ ดัน5จีเกิด
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม นายรีวิน เพทายบรรลือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์มสตรีท แอดไวเซอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาทางด้านธุรกิจ การเงิน การลงทุน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านโทรคมนาคม กล่าวในงานสัมมนา Roadmap 5G ดันไทยนำ ASEAN ที่จัดโดยเครือมติชน ที่ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ ว่า ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี 5จี อย่างชัดเจน โดยเฉพาะคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง แต่ทางภาคเอกชนยังมีความกังวลในเรื่องของราคาประมูลคลื่นที่มีราคาสูง แต่ทุกฝ่ายก็พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการประมูลในครั้งนี้อยู่ที่รายละเอียดว่ารัฐบาลจะมีการอุดหนุนหรือช่วยเหลือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ตนมั่นใจว่า ทาง กสทช.ทำได้ดีที่สุดในกรอบขององค์กร โดยให้โอเปอเรเตอร์มาเสนอราคาที่เป็นจุดเริ่มต้นในการเกิดเทคโนโลยี 5จี
ทั้งนี้ ในเรื่องของรายละเอียดที่จะขับเคลื่อนซึ่งจะต้องมีการหารือกันต่อไปเมื่อเกิดเทคโนโลยี 5จี เพราะโอเปอเรเตอร์บางรายต้องการขับเคลื่อนในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนการพัฒนาในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นเรื่องสำคัญ เพราะตอนนี้ 5จี ไม่ได้เป็นเรื่องของโอเปอเรเตอร์และภาครัฐ เพียงอย่างเดียว การประมูลในครั้งนี้จะช่วยให้โอเปอเรเตอร์คลื่นความถี่เอาไปใช้งานต่อ ส่วนเรื่องรายเอียดที่จะสนับสนุนต่อจากนี้ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการขับเคลื่อน 5จี ว่าจะสามารถติดต่อสื่อสารและรับข้อมูล เพื่อนำไปปฏิบัติได้รวดเร็วแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอุดหนุนว่ารัฐจะปฏิบัติอย่างไรต่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากและต้องได้รับการบูรณาการทุกภาคส่วน
“มองว่ายังเร็วไปที่จะตอบว่าภาครัฐจะมีการอุดหนุนโอเปอเรเตอร์ด้วยวิธีใด ซึ่งในส่วนของกระบวนการอุดหนุนจะต้องนำไปพิจารณาในคณะกรรมการ 5จี ก่อนที่จะนำมาชี้แจ้งให้โอเปอเรเตอร์รับทราบ ในมุมมองของโอเปอเรเตอร์ยังไม่รู้ว่ารายได้ที่จะได้รับจากผู้ใช้บริการจะมีกี่รายที่จะยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อใช้อินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงกว่า 4จี ส่วนรูปแบบการให้บริการ (ยูสเคส) ภาคอุตสาหกรรมก็ยังไม่มี ซึ่ง 6 เดือนหลังจากนี้ ทางผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม (เวนเดอร์) อาจมีการลดราคามือถือและอุปกรณ์ให้ถูกลงก็เป็นได้ และโอเปอเรเตอร์อาจเข้ามาอุดหนุนให้ราคาหรือมีการจัดทำโปรโมชั่นเพิ่มขึ้น ดังนั้น อีโคซิสเต็มจะมีการพัฒนาตัวเองให้เกิด 5จี โดยอัตโนมัติ” นายรีวินกล่าว
นายรีวินกล่าวว่า 4จี เป็นเรื่องของประชาชนผู้ใช้บริการ แต่พอพัฒนามาเป็นเทคโนโลยี 5จี จะเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมถึง 90% ส่วนภาคประชาชนจะได้ประโยชน์ประมาณ 10% เท่านั้น ซึ่งในภาคเอกชนถึงแม้จะได้รับประโยชน์ถึง 90% แต่ในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ยังน่าเป็นห่วงเพราะการแข่งขันจะยิ่งสูงมากขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาใหม่เมื่อ 5จี เข้ามา อาทิ รถยนต์อัตโนมัติ เป็นต้น โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นภายใน 3-5 ปีนี้ แต่ไทยต้องเร่งพัฒนารอเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ต้องเกิดขึ้นทุกอย่างต้องมีความชัดเจน หากเพื่อนบ้านใช้ 5จี แล้วแต่ไทยยังไม่เกิด อาจมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นแน่นอน ดังนั้น จะต้องเร่งพัฒนาให้เกิดขึ้นจริงตามที่กำหนดไว้ในปีหน้า
