ผู้เขียน | ภคพร บุญมี |
---|
โดยปกติสหรัฐจะทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) กับประเทศไทยเป็นประจำทุกปี ล่าสุดสหรัฐมีคำสั่งเตรียมระงับจีเอสพีกับสินค้าจากประเทศไทย ส่งผลต่อมูลค่าทางการค้าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แม้ยังไม่มีผลทันที แต่ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับภาคธุรกิจอย่างมาก
เสียงสะท้อนจากกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม ส.อ.ท. พบว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก หากมีการตัดสิทธิจริงในช่วงเดือนเมษายน 2563 ระยะเวลาเพียง 6 เดือน เอกชนปรับตัวไม่ทันอย่างแน่นอน เพราะหลังจากประกาศตัดสิทธิจะต้องจ่ายค่าภาษีประมาณ 5%
นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบทำให้นักลงทุนต่างชาติที่มีความต้องการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทย เปลี่ยนใจย้ายฐานไปประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม และเชื่อว่าจะกระทบต่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาค ตะวันออก (อีอีซี) โดยตรงอย่างแน่นอน ดังนั้น ภาครัฐต้องมีความชัดเจนในเรื่องของมาตรการ หรือการ ส่งเสริมการค้าในตลาดอื่นๆ เพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่จะเกิดอย่างเร่งด่วน
ขณะที่ฟากการเมืองอย่าง กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ให้ความเห็นในกรณีนี้ว่า ไม่อยากให้เอกชนกังวล เพราะผลกระทบไม่มากนัก ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องและผู้ประกอบการไทยแข็งแกร่ง การระงับสิทธิจีเอสพีครั้งนี้จะทำให้ไทยเสียภาษีเพิ่มขึ้นราว 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,500 ล้านบาท โดยสหรัฐยังย้ำว่าพร้อมทบทวนการให้สิทธิจีเอสพีสินค้าไทยได้ในอนาคต และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ไทยแบน 3 สารเคมีแต่อย่างใด
ล่าสุดไทยประชุมร่วมกับสหรัฐ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) ครั้งที่ 35 ที่ไทยเป็น เจ้าภาพ ซึ่งสหรัฐรับข้อเสนอไทยเรื่องการทบทวนการระงับสิทธิจีเอสพี โดยจะกลับไปพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ต่อไป
ไม่ว่าคำตอบสุดท้ายจากฟากสหรัฐจะเป็นอย่างไร ภาครัฐต้องเร่งสร้างความชัดเจนให้กับภาคเอกชน เพื่อโอกาสทางการค้าของประเทศ