ธนจิรา ทุ่ม100ล้านปั้น”หาญ”โตเท่าตัวใน3ปี ห่วงกำลังซื้อปีใหม่

นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาญ โกลบอล จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนโรดแมป 3 ปี ในการผลักดันผลิตภัณฑ์ความงามธรรมชาติ “หาญ” (HARNN) เป็นผู้นำการส่งมอบประสบการณ์ และอัตลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัยผ่านผลิตภัณฑ์ความงามธรรมชาติ 100% ในระดับภูมิภาคเอเชีย ผ่านกลยุทธ์ “HARNN Holistic”

โดยแบ่งการรุกตลาดเป็น 3 เฟส คือ เฟสแรกปี 2563 เดินหน้าขยายตลาดในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้น มีแผนเพิ่ม 4 จุดจำหน่ายต่อปี จากปัจจุบัน 30 จุดขาย เป็น 42 จุดขาย ขนาดพื้นที่ 50-60 ตารางเมตรต่อสาขา เช่น ย่านบางนา ปิ่นเกล้า รังสิต รวมงบประมาณ 60 ล้านบาท

นายธนพงษ์ กล่าวว่า เฟสที่สองปี 2564 เสริมศักยภาพเครือข่ายพันธมิตรและร้านตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต เน้นพันธมิตรในเอเชีย โดยตลาดใหม่ที่จะเปิดจุดจำหน่ายเพิ่ม อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และฮ่องกง จากปัจจุบันเปิดแล้วที่อินโดนีเซีย 8 แห่ง จีน 8 แห่ง สิงคโปร์ มาเลเซีย และไต้หวันประเทศละ 1 แห่ง

Advertisement

” เมื่อ 2 เฟสสามารถสร้างการเข้าถึงและเพิ่มการใช้สินค้าได้มากขึ้นแล้ว ก็จะเข้าเฟสที่สามปี 2565) สร้างความชัดเจนให้กับกลุ่มธุรกิจของ HARNN ทั้ง 3 กลุ่ม คือ HARNN Retail Store HARNN Hospitality และHARNN Heritage Spa ครบวงจรทั้งจำหน่ายตามค้าปลีก ตามสปาโรงแรม และแฟรนไชส์ และเตรียมใช้ประมาณอีก 40 ล้านบาทในการทำแผนการตลาดและสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้า ”

นายธนพงษ์ กล่าวต่อว่า ภายใน 3 ปีบริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนการซื้อสินค้าที่เป็นคนไทยจากเดิม 5% เป็น 50% และสร้างรายได้เฉพาะแบรนด์หาญเพิ่มอีกเท่าตัว จาก 400 ล้านบาทเป็น 800 ล้านบาท หรือเป็นสัดส่วน 35%ของสินค้าในเครือทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 65% เป็นรายได้จาก แพนดอร่า (PANDORA) มารีเมกโกะ (MARIMEKKO) แคท คิดสตัน (CATH KIDSTON) และ ทิลด้า (TILDA) โดยตั้งเป้าเพิ่้มรายได้รวมทุกแบรนด์เพิ่มจาก 1,500 ล้านบาท เป็น 2,200 ล้านบาทภายในปี 2565

” ยอมรับว่ากำลังซื้อสินค้าของคนไทยค่อนข้างระมัดระวังมากขึ้น และรอจังหวะการใช้จ่าย ดูจากเมื่อบริษัทจัดแคมเปญกำลังซื้อก็จะฟื้นตัว ส่วนปีใหม่นี้คาดวว่ากำลังซื้อโดยรวมน่าจะใกล้เคียงปีก่อน แม้รัฐออกแคมเปญชิมช้อปใช้แต่ก็ใช้จ่ายเฉพาะสินค้าบางประเภท ขณะที่สินค้าลักซ์ชัวรี่กำลังซื้อจะอยู่ที่อารมณ์ ดังนั้น สิ่งสำคัญต่อการฟื้นกำลังซื้อคือการสร้างความมั่นใจว่าการส่งออกไทยฟื้นตัว และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จะเป็นการสร้างการคึกคักกลับมาอีกครั้งในปีใหม่นี้ ” นายธนพงษ์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image