คลุกวงหุ้น : “โกลเบล็ก”คาดตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ ให้กรอบเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,600-1,640 จุด (ชมคลิป)

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ มองการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยอยู่ในลักษณะแกว่งตัวในกรอบแคบ (ไซด์เวย์) จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,600-1,640 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการเข้าซื้อกองทุนรวมระยะยาว (แอลทีเอฟ) ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2562 ที่ปกติแล้วจะมีการกระจุกตัวของการซื้อกองทุนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นแรงสนับสนุนที่ช่วยพยุงตลาด ให้อยู่ในระดับ 1,600 จุด และคงไม่ได้ต่ำกว่าระดับนี้ได้มากนัก สำหรับปัจจัยที่น่าติดตามภายในประเทศ แบ่งเป็น 3 เรื่องหลัง ได้แก่ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ปัจจัยถัดมาเป็นเรื่องของการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ ชิมช้อปใช้ ออกมา ซึ่งเบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนการศึกษาการขยายเวลาในมาตรการดังกล่าวในเฟส 3 จึงต้องติดตามว่าการประชุมครม.นัดถัดไป จะมีมาตรการอะไรออกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ และปัจจัยสุดท้ายเป็นเรื่องของการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออก 4 มาตรการควบคุมเงินบาท เพื่อให้เงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง โดยหากอ่านเนื้อในของ 4 มาตรการดังกล่าว จะพบว่ามีการวางแผนไว้แล้วว่า หากใช้ 4 มาตรการดังกล่าวแล้ว เงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าลงได้ จะเพิ่มอีก 2 มาตรการในการบังคับใช้ ซึ่งเป็นการขยับกฎเกณฑ์ของ 4 มาตรการขั้นต้น ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นส่วนช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้เพิ่มขึ้น

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศ เป็นเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) เป็นหลัก แต่ในช่วงนี้มองเป็นการหารือกันระหว่าง 2 ประเทศ แต่เบื้องต้นประเมินว่าไม่น่าจะสามารถจบลงได้ง่ายๆ เพราะสหรัฐคงต้องการใช้ประเด็นนี้มาเป็นเรื่องรบกวนกับจีน เพื่อให้เกิดสงครามในรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องต่อสู้กันโดยตรง จึงแนะนำให้ติดตามและประเมินผลกระทบกับตลาดหุ้นเป็นรายวันว่า หากผลเป็นไปในทางบวกก็จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น แต่หากผลออกมาเป็นไปในทางลบ ก็จะเป็นภาพลบกับตลาดได้ ส่วนอีกประเด็นเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นผลกระทบจากสงครามการค้า แต่ฝ่ายวิจัยบล.โกลเบล็กประเมินว่า การที่ซาอุดิอรามโก (Saudi Aramco) จะเปิดการขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าต้องดันราคาน้ำมันขึ้นมา เพื่อให้เป็นผลดีกับผลประกอบการของบริษัทฯเอง รวมถึงเพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาซื้อหุ้นไอพีโอมากขึ้นด้วย

“ประเมินทิศทางเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ว่าการจะไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยเป็นไปได้ยากมาก เพราะยังไม่ได้มีแนวโน้มชัดเจน แต่การที่ค่าเงินบาทแข็งค่า มองว่าจะเป็นการเข้าซื้อสะสมในส่วนของตลาดพันธบัตรมากกว่า ทำให้คนที่จะเข้ามาเล่นและหนุนตลาดมากที่สุด คาดว่าจะเป็นผู้ซื้อกองทุนเป็นหลัก โดยแนะนำกลยุทธิ์ในการลงทุนคือ ให้เล่นในรูปแบบการเข้าซื้อสะสมในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยต่างๆ”นายณัฐวุฒิกล่าว

ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image