| ผู้เขียน | ตุ้งแช่ |
|---|
ทุกๆ ปีเราจะได้มาลุ้นสถิติใหม่ๆ หลัง เทศกาล 11.11 ช้อปออนไลน์เซลของอาลีบาบา แม้ปีนี้นักวิเคราะห์จะคาดการณ์ก่อนจะเริ่มงานว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน คู่แข่งที่เพิ่มขึ้น และสงครามการค้ากับสหรัฐ จะส่งผลต่อเทศกาลวานนี้ แต่ผลก็ออกมาแล้วว่า ปีนี้กับเทศกาลออนไลน์เซลวันเดียว อาลีบาบา คว้ารายได้ไปประมาณ 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 30,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปีก่อน
โดยเทศกาล 11.11 ประจำปี 2562 มีตัวเลขอะไรเด็ดๆ บ้าง ไปดูกัน
1.เกิดรายได้ประมาณ 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 25% ซึ่งเปอร์เซ็นต์ ที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าปี 2561 ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณ 27% และต่ำกว่าปี 2560 ที่โตขึ้นจากปี 2559 ถึง 40%
2.ยอดขายผ่าน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพียง 1 นาที 8 วินาที เหนือปี 2561 ที่ใช้เวลามากกว่า 17 วินาที
3.เพียง 28 นาที อาลีบาบา ก็ประกาศว่ายอดขายผ่าน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
4.ปิดชั่วโมงแรก ด้วยยอด 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
5.เมื่อเปรียบเทียบกับเทศกาลใกล้เคียงกันของสหรัฐ อย่าง “แบล็ค ฟรายเดย์” ในปี 2561 และไซเบอร์ มันเดย์ สองเทศกาลนั้นทำเงินรวมกันแค่ 14,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังไม่ถึงครึ่งของรายได้จากเทศกาลวานนี้ของจีนด้วยซ้ำ และปี 2562 นี้ ทาง “อะโดบี” คาดว่า ทั้งสองเทศกาลจะทำเงิน 7,500 และ 9,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งรวมกันก็ยังไม่ถึงครึ่งที่อาลีบาบาได้อยู่ดี
สำหรับคู่แข่งของอาลีบาบา อย่าง “เจดี ดอทคอม” และ “พินตัวตัว ดอท คอม” ซึ่งทำได้ดีในเมืองเล็กๆ และสามารถจัดการด้านโลจิสติกส์ได้ดีขึ้น ก็จัดแคมเปญที่คล้ายๆ กับอาลีบาบาในแต่ละปี โดยยอดขายของเจดี ดอทคอม ซึ่งเริ่มแคมเปญตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ได้รายได้ไปประมาณ 23,600 ล้านเหรียญสหรัฐ
ข้อมูลจาก “ลาซาด้า” ระบุว่า สินค้ายอดนิยมของคนไทย ที่มียอดคำสั่งซื้อใน 1 ชั่วโมงแรกสูงสุด ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ ถัดมาคือโทรทัศน์ และสินค้าแม่และเด็ก ส่วนสินค้าที่มีจำนวนออเดอร์สูงสุด ได้แก่ ชุดชั้นใน รองลงมาคือ ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป และเสื้อผ้าแฟชั่น ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะแย่ แต่คนไทยก็แห่ช้อปออนไลน์ 11.11 ทำลายสถิติกว่าทุกปี
