เฉลียงไอเดีย : ปรับชะรันซิงห์ ทักราล พา‘BC’พ้นพิษซับไพรม์..ลุยต่ออสังหาฯเพื่อขาย

เฉลียงไอเดีย : ปรับชะรันซิงห์ ทักราล พา‘BC’พ้นพิษซับไพรม์..ลุยต่ออสังหาฯเพื่อขาย

เฉลียงไอเดีย : ปรับชะรันซิงห์ ทักราล พา‘BC’พ้นพิษซับไพรม์..ลุยต่ออสังหาฯเพื่อขาย

เปิดมุมคิดซีอีโอ‘ปรับชะรันซิงห์ ทักราล’
ไม่หยุดคิด-เปิดตามองหาโอกาสแม้ช่วงวิกฤต
พา‘BC’พ้นพิษซับไพรม์..ลุยต่ออสังหาฯเพื่อขาย

“บริษัทเริ่มต้นธุรกิจในการจับโรงแรมระดับ 3 ดาว เพราะเล็งเห็นโอกาสและการเติบโตของธุรกิจที่ยังหายากในพื้นที่ กทม. มีแต่ธุรกิจเกสต์เฮาส์ (Guesthouse) แม้จะคล้ายโรงแรม แต่ยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกหรือการบริการที่เทียบเท่า และเป็นจังหวะที่สายการบินแบบประหยัด หรือโลว์คอสต์แอร์ไลน์ เริ่มเติบโตมากขึ้น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเป็นจังหวะดีต่อธุรกิจโรงแรมระดับ 3 ดาว” คุณปรับชะรันซิงห์ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ BC กล่าว

ซึ่ง BC ไม่ได้ทำธุรกิจบริการโรงแรมระดับ 3 ดาว แต่ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย หรือการพัฒนาโครงการรูปแบบ BOS หรือ Build-Operate-Sell ประเดิมเริ่มต้นด้วยการก่อสร้างโครงการโรงแรมระดับ 3 ดาว ด้วยคาดการณ์ว่าขายได้เพราะน่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดนั่นเอง!

Advertisement

“BC” ไม่ใช่บริษัทก่อตั้งใหม่ เพราะเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 และกลายมาเป็นบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) เมื่อปี 2550 หลังมีบริษัทต่างชาติรายใหญ่มาร่วมลงทุนด้วย และเป็นผู้แนะนำการทำธุรกิจการพัฒนาอสังหาฯเพื่อขาย

“ให้หลัง 1 ปี ในปี 2551 ถือว่าเป็นปีที่เหนื่อยและมีความลำบากที่สุด หลังเกิดการร่วมลงทุนกับบริษัทต่างชาติได้ปีเดียวก็เจอวิกฤตซับไพรม์ หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ของสหรัฐ บริษัทต่างชาติต้องถอนตัวออกเพราะล้มละลาย และยังเกิดการล้มละลายอีกหลายบริษัททั่วโลก ต้องใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะซื้อหุ้นของบริษัทกลับคืนมาได้เพื่อดำเนินการต่อด้วยแนวคิดเชิญพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาลงทุนในลักษณะเป็นโครงการต่อโครงการ ยอมรับว่าช่วงแรกบริษัทเซ เพราะได้รับผลกระทบจากคู่หูล้มละลาย แต่พยายามประคับประคอง เปิดตามองให้เห็นโอกาส หาวิธีการเจรจาต่อรอง และต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขับเคลื่อนบริษัทให้ก้าวต่อไปให้ได้” ซีอีโอ BC ย้อนภาพความหลัง-ความหวัง

คุณปรับชะรันซิงห์ วกกลับมาฉายภาพธุรกิจว่า จากนี้ไปจะเดินหน้าประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาฯเพื่อขายออกให้แข็งแกร่งและเติบโตต่อเนื่องยั่งยืน โดยยังเห็นโอกาสเติบโตสูงเพราะเห็นความต้องการของลูกค้าที่มองว่าอัตราผลตอบแทนลงทุนสูงกว่าการนำเงินไปฝากในธนาคารเฉยๆ อีกทั้งบริษัทมีจุดแข็งที่ยังเป็นเจ้าเดียวทำธุรกิจการพัฒนาอสังหาฯเพื่อขายออก

Advertisement

สำหรับความต้องการของลูกค้าถือว่าต่างจากในอดีต เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่มขึ้นมากจากปีละประมาณ 12 ล้านคน ณ ปัจจุบันมากกว่า 38 ล้านคน และกระจายตัวไปตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยเฉพาะภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา ไม่ได้ต้องการมาเที่ยวแค่ในกรุงเทพฯเท่านั้น ขณะที่เทรนด์ยังเหมือนเดิมคือนิยมพักโรงแรมระดับ 3 ดาว โดยเรียลดีมานด์พบว่าเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมอง 3-5 ปีข้างหน้าภาคการท่องเที่ยวไทยจะโตมากกว่าเดิม เชื่อว่าจะโตเพิ่มจากระดับปัจจุบันประมาณ 3-5% ในทุกๆ ปี

ถามถึงความนิยมใช้บริการเว็บไซต์จองที่พักแบบไม่ถูกกฎหมายกระทบหรือไม่ คุณปรับชะรันซิงห์ไม่กังวล โชว์ตัวเลขอัตราการเข้าพักช่วง 5 ปีย้อนหลังยังเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง “เพราะลูกค้าที่เข้าพักเข้าใจถึงประสบการณ์ที่จะได้รับไม่เหมือนกัน หากเข้าพักในห้องพักแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรงแรมอาจเสี่ยงกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน รวมถึงบริการที่แตกต่างกัน หากเข้าพักโรงแรมมั่นใจได้เรื่องคุณภาพทุกด้าน ทั้งความปลอดภัยและบริการ”

เมื่อถามถึงแนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้า ซีอีโอ BC บอกว่า ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะอยู่ในทิศทางไหน แต่เชื่อว่าปี 2563 จะยังเป็นปีที่ดีสำหรับธุรกิจภาคการท่องเที่ยว ได้มาตรการกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวจากภาครัฐ และยังเป็นที่นิยมในการเดินทางมาท่องเที่ยวของต่างชาติ ดูได้จากปัจจุบันแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่ามาก แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังเดินทางเข้ามา ทำให้เชื่อว่าประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการมาท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

คำถามสุดท้ายก่อนจบบทสนทนา คือแนวคิดการทำงานขององค์กร คุณปรับชะรันซิงห์บอกว่า ต้องรวดเร็ว โปร่งใส ซื่อสัตย์ และต้องเคารพซึ่งกันและกัน มีความเป็นเจ้าของ จึงจะช่วยเพิ่มมูลค่าได้สูง ทั้งนี้ มีนิยามการบริหารบริษัทคือ การตั้งเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจน ต้องมีดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จของงาน โดยมีรางวัลพิเศษให้พนักงานเพื่อสร้างแรงผลักดัน-จูงใจการทำงานและอยู่ร่วมกับองค์กรได้ยั่งยืน

“จะเห็นว่าช่วงเวลาที่บริษัทต้องเจอวิกฤต จะมีการสื่อสารกับคนในองค์กรให้เข้าใจร่วมกันเพื่อให้ทุกคนเตรียมพร้อมในการรับมือ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ในช่วงที่เหนื่อยถึงที่สุด ผมจึงไม่มีความคิดที่จะหยุดหรือท้อแท้กับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ”

เป็นจุดแข็งที่ผู้บริหารหัวเรือใหญ่ “ปรับชะรันซิงห์” สามารถนำพาบริษัทฝ่าฟันช่วงที่อันตรายในวิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อในอดีตได้จนถึงปัจจุบัน และเชื่อมั่นว่าจะผ่านไปได้ในอนาคตต่อจากนี้อย่างแน่นอน

วิณัฐฏาภรณ์ ศิริโสม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image