‘สุวิทย์’ รัฐมนตรีอว. จัดทัพ ‘บีซีจี โมเดล’ ดึงทุกภาคส่วนร่วม ทุ่มงบลงทุนนวัฒกรรมดันไทยสู่ 4.0

สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)เปิดเผยในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 37 THAITAY in ACTION : ไทยเท่ ทำได้ ทำจริง ที่หอประชุมใหญ่ ชั้น 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ใจความส่วนหนึ่งว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันได้มีเป้าหมายเพื่อนำประเทศไปสู่ ยุคไทยแลนด์ 4.0 แต่ก็มีปัญหาว่ารัฐบาลจะสามารถขับเคลื่อนไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร โดยกลไกลการขับเคลื่อนประเทศหลังจากนี้ ไทยต้องสู้กับความท้ายทายในยุคที่เทคโนโลยีกำลังป่วนโลก หรือยุคที่ทุกคนกำลังเรียกหาความยั่งยืน และวิธีลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ผมในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงอุดมศึกษาฯ ได้เสนอหลักคิดในรูปแบบการขับเคลื่อน บีซีจี อีโคโนมี (BCG Economy) คือ การผนึกกำลังการทำงานในรูปแบบจตุภาคี ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน ชุมชน สังคม มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และเครือข่ายต่างประเทศ เพื่อพัฒนาต่อยอดปรับใช้องค์ความรู้ และเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับบริบทของไทย

นายสุวิทย์ กล่าว่า ที่ผ่านมาคนไทยมีบทเรียนราคาแพง ที่ไทยเอาแต่พึ่งพาการส่งออกจากต่างประเทศมากจนเกินไป ในอดีตไทยเคยพัฒนาจากการลดนำเข้าไปสู่การส่งเสริมการส่งออก และนำไปสู่การดึงการลงทุนจากต่างประเทศนั้น ซึ่งตัดภาพมาที่ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างมาก ขณะที่ เรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ (โลโคอีโคโนมี) และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เป็นเรื่องที่มีความสำคัญแต่ประเทศไทยกลับไม่มีฐานที่แข็งแรงพอ เพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากนี้ไปจะมีการพัฒนาที่ตรงจุดมากขึ้น อาทิ การสร้างความเข้มแข็งจากภายในแต่เชื่อมไทยไปสู่โลก การเดินหน้าไปสูศตวรรษที่ 21 ด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งหลักคิดเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือบีซีจี อีโคโนมี

นายสุวิทย์ กล่าวว่า สิ่งที่จะทำให้บีซีจี โมเดล ขับเคลื่อนไปได้ต้องอาศัยตัวสนับสนุนหลัก ได้แก่ 1.ปลดล็อคข้อจำกัดทางกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ อาทิ พ.ร.บความหลากหลายทางชีวภาพ และพ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม 2.การสร้างความสามารถของกำลังคน 3. โครงสร้างพื้นฐานสำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวก และ 4.ยกระดับเครือข่ายพันธมิตรต่างประเทศ นอกจากนี้ ต้องมีการสนับสนุนและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองให้มากขึ้น โดยในขณะนี้มีการขับเคลื่อน บีซีจี เชิงพื้นที่ ได้แก่ ลานนา 4.0, ด้ามขวาน 4.0, อีสาน 4.0, ภาคตะวันออก 4.0 และภาคกลาง 4.0 ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะมีการพัฒนานวัตกรรมที่แตกต่างกันไปเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

Advertisement

“ตอนนี้ผมได้มีการดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนของประเทศไทย โดยอยู่ระหว่างการจัดทัพ บีซีจี ซึ่งครั้งนี้ต้องใช้งบประมาณก้อนใหญ่ โดยมั่นใจว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการใช้งบประมาณของภาครัฐที่มีระเบียบมากขึ้น โดยต้องเปลี่ยนจากวิธีการแจกเงินให้ประชาชน มาเป็นการลงทุนนวัฒกรรม รวมถึงการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา หากทำสำเร็จจะช่วยให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยปีนี้มีการใช้งบประมาณกว่า 250 ล้านบาท แต่คาดว่าปีหน้าจะขยับขึ้นเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าเดิม และจะไปลดงบประมาณในส่วนอื่นแทน ต้องเข้าใจตอนนี้เรายังเดินไม่พ้นยุคไทยแลนด์ 3.0 ที่กำลังเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ผมมั่นใจว่าบีซีจี จะเป็นตัวช่วยในขับเคลื่อนให้ไทยเข้าสู่ 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ไทยใช้งบประมาณอย่างถูกต้องมากขึ้นต่อไป” นายสุวิทย์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image