จอดป้ายประชาชื่น : ได้ผล?

ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเห็นได้จากการปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ล่าสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ คาดจีดีพีขยายตัวเพียง 2.6% ภาครัฐเห็นเศรษฐกิจออกอาการไม่ดี จึงนำมาตรการต่างๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เม็ดเงินลงไปหมุนในระบบเศรษฐกิจ

มาตรการหนึ่งที่มักจะถูกหยิบยกออกมาใช้ คือ มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ลงเหลือเพียง 0.01% เพื่อกระตุ้นให้ซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ และมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องจำนวนมาก ไล่ไปตั้งแต่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ ยังประจวบเหมาะในช่วงที่ซัพพลายสะสมในตลาดอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก ถือว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ใช้โอกาสนี้ระบายสต๊อกไปในตัว

ยังไม่พอ ธนาคารออมสินได้จัดแคมเปญสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่อนเพียงล้านละ 0.01% หรือล้านละ 10 บาทออกมา รวมทั้งธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่มีโครงการบ้านดีมีดาวน์ ช่วยเหลือค่าผ่อนดาวน์ 50,000 บาท เหล่านี้หากมองมาตรการถือว่าผู้ซื้อได้ประโยชน์ น่าจะช่วยกระตุ้นคนที่กำลังจะซื้อบ้านอยู่แล้ว หรือกำลังมีแผนซื้อให้ตัดสินใจเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม มาตรการทั้งหมดนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์เมื่อลูกค้าสามารถกู้ขอสินเชื่อกับธนาคารได้ แต่    สินเชื่อกำลังเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด เพราะปัจจุบันผู้ซื้อมีภาระหนี้อยู่ในระดับสูง ธนาคารพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้จากหนี้สินที่มีอยู่ จึงถูกปฏิเสธสินเชื่อ ประกอบกับผลจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (มาตรการแอลทีวี) ของธนาคารแห่งประเทศไทยมาเป็นแรงกดดัน ปัญหาจากแอลทีวีเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ผู้ประกอบการอยากให้ผ่อนคลาย

Advertisement

ต้องติดตามว่ามาตรการที่ภาครัฐออกมาหวังให้เป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีผลมากน้อยเพียงใด ส่วนจะเห็นการผ่อนคลายมาตรการแอลทีวีเพื่อมาหนุนมาตรการกระตุ้นที่ภาครัฐออกมาคงต้องติดตาม เพราะการทำมาตรการใดๆ ไม่ได้มีผลเพียงด้านเดียว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image