พ.ย.62อนุญาตต่างชาติลงทุนในไทย22ราย “ญี่ปุ่น”เต็งหนึ่ง รวม11เดือนทุนนอกกว่า2.2หมื่นล้าน

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการฯในเดือนพฤศจิกายน ได้อนุญาตให้คนต่างชาติ 22 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนำเงินเข้ามาลงทุนกว่า 238 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 391 คน รวมถึงถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมหลุมเจาะและความปลอดภัยนอกชายฝั่ง องค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการซ่อมแซมและบำรุงรักษาเครื่องกังหันก๊าซและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง องค์ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการทำงานของกล้องถ่ายรูปและกล้องส่องทางไกล องค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตรถยนต์และการตรวจสอบคุณภาพการผลิตขั้นสูง องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า เป็นต้น

นายวุฒิไกร กล่าวว่า ธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ 1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม 11 ราย จากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ มีเงินลงทุน 71 ล้านบาท อาทิ บริการรับจ้างผลิตและประกอบรถยนต์ รวมทั้งชิ้นส่วนและส่วนประกอบของรถยนต์ บริการทดสอบผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ บริการให้คำปรึกษาแนะนำ ทดสอบ และวิเคราะห์คุณสมบัติสารเคมีที่ใช้ในการผลิตโพลิเมอร์ และผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ บริการทางบัญชี บริการให้กู้ยืมเงิน

2. ธุรกิจนายหน้า/ค้าปลีก/ค้าส่ง จำนวน 4 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและไต้หวัน มีเงินลงทุนจำนวน 41 ล้านบาท ได้แก่ การทำกิจการตัวแทนเพื่อจัดหาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศสำหรับการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืชประเภทผัก การค้าส่งสินค้าประเภทกล้องถ่ายรูป กล้องส่องทางไกล และเลนส์ การค้าปลีกสินค้าประเภทคอมเพรสเซอร์ อุปกรณ์และอะไหล่
การค้าปลีกอุปกรณ์จับยึดที่ใช้ในการตรวจสอบแผ่นวงจรพิมพ์

3. คู่สัญญาเอกชน จำนวน 3 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้มีเงินลงทุนจำนวน 94 ล้านบาท ได้แก่ บริการซ่อมบำรุงรักษา รวมทั้งบริหารจัดการและประสานงานเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรและการจัดส่งชิ้นส่วนและอะไหล่สำหรับซ่อมบำรุงเครื่องกังหันก๊าซ บริการซ่อมบำรุง แก้ไขข้อขัดข้อง การตรวจสอบพื้นที่หลักและการสนับสนุนทางเทคนิคในพื้นที่โรงไฟฟ้าถ่านหิน
และ บริการขุดเจาะปิโตรเลียม

Advertisement

4. คู่สัญญาช่วงรัฐวิสาหกิจ จำนวน 1 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ มีเงินลงทุนจำนวน 14 ล้านบาท ได้แก่ บริการบำรุงรักษา จัดซื้อ จัดหา วัสดุชิ้นส่วน “ระบบประตูกั้นชานชาลา ระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติสำหรับโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง” และ 5. ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 3 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศลิกเทนสไตน์ เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ มีเงินลงทุนจำนวน 18 ล้านบาท ได้แก่ บริการให้ใช้ช่วงสิทธิโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับการออกแบบในงานก่อสร้าง บริการติดตั้ง ซ่อมแซม บำรุงรักษา ให้คำปรึกษาแนะนำและฝึกอบรมเกี่ยวกับสินค้าเครื่องสูบน้ำ บริการให้เช่าพื้นที่อาคารบางส่วนพร้อมสาธารณูปโภค

” พฤศจิกายนปีนี้ จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 6 ราย คิดเป็นร้อยละ 38 ขณะที่เงินลงทุนลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 33 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12 เนื่องจากในเดือนตุลาคม 2562 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจซึ่งต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง อาทิ บริการติดตั้ง ซ่อมแซมและบำรุงรักษาเตาหลอมอินดั๊กชั่น บริการออกแบบเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับใช้ในกระบวนการผลิตเครื่องยนต์ การทำกิจการนายหน้าประกันชีวิต และนายหน้าประกันวินาศภัย เป็นต้น ” นายวุฒิไกร กล่าว

นายวุฒิไกร กล่าวว่า ทำให้ 11 เดือนแรกปี2562 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาตรวม 193 ราย รวมเงินลงทุน 22,153 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง 59 ราย คิดเป็นร้อยละ 23 แง่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 11,420 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 106

เนื่องจากในปี2562 มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการงานวิศวกรรม การจัดหา ติดตั้ง และทดสอบการใช้งานของระบบเครื่องบดดินหรือหินกึ่งเคลื่อนที่โครงการโรงไฟฟ้า บริการออกแบบ จัดซื้อจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ รวมทั้งการแก้ไขความชำรุดบกพร่องและบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน บริการออกแบบทางวิศวกรรม และ บริหารจัดการโครงการปลดประจำการเรือผลิตและเก็บปิโตรเลียม บริการติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบระบบและให้การสนับสนุนทางเทคนิคดาวเทียมสำรวจทรัพยากร เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image