ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับประเด็นการครอบครองที่ดินในพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ของปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. จำนวนกว่า 687 ไร่ บริเวณเขาสนฟาร์ม อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จากกรณีดังกล่าวนำมาซึ่งคำถามจากประชาชนว่าทำไมพอมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต เรื่องถึงได้จบยากเพียงนี้ พร้อมแสดงความเห็นว่า ถ้ากระทำผิดจริงต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่บริเวณเขาสนฟาร์ม ตรวจสอบพื้นที่ฟาร์มและรับคืนพื้นที่ที่เป็นของ ส.ป.ก.ทั้งหมดแล้ว ส่วนที่ดินที่เป็นของหน่วยงานอื่นจะมีการทยอยคืนต่อไป
การดำเนินงานหลังจากพื้นที่ดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยึดคืนแล้ว ส.ป.ก.จะนำพื้นที่ดังกล่าวไปจัดให้แก่เกษตรกรตามนโยบายจัดที่ทำกินชุมชนของรัฐบาล (คทช.) ผ่านคณะกรรมการ คทช. จังหวัดราชบุรี เพื่อให้การจัดสรรพื้นที่ให้เกษตรกรมีความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อไป
ส่วนการทำงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ทั่วประเทศรายงานผลการตรวจสอบ การถือครองที่ดินของกลุ่มนักการเมือง ส.ส. และกลุ่มทุน ที่อาจเกี่ยวข้องกับพื้นที่ ส.ป.ก. ให้รับทราบก่อนสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อตรวจสอบเชิงลึกต่อไป หากพบรายใดถือครองผิดปกติจะใช้มาตรฐานเดียวกันจัดการ
การแก้ปัญหากรณี ส.ส.ปารีณาที่จบง่าย ถูกตั้งข้อสังเกตถึงขั้นตอนดำเนินงานว่า ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปทยอยคืนพื้นที่แบบนี้คงโดนจับดำเนินคดีไปแล้ว และถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับคนที่มีตำแหน่งรั้งท้ายอีก จะหยวนแบบนี้หรือไม่
แล้วหลักเกณฑ์ที่ว่าการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ต้องเป็นเกษตรกรผู้ยากไร้เท่านั้น ยังจริงอยู่ไหม การบังคับใช้กฎหมายระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชนทำไมจึงต่างกัน
ศรัทธาต่อรัฐอาจหมดลงถ้าเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ อยู่ที่รัฐจะอุดช่องโหว่ของกฎหมายนี้อย่างไร
ภคพร บุญมี
