เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้านี้ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.23 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับภาพตลาดการเงินค่อนข้างทรงตัว ดัชนีS&P500 ปรับตัวขึ้นเพียง0.03% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ10 ปี อยู่ในระดับ1.88% และมีเพียงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง0.6% เนื่องจากความกังวลกับทิศทางราคาWTI ที่อาจทรงตัวในช่วง 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในปี 2563
นายจิติพล กล่าวว่า สำหรับตลาดเงินวันนี้ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมติ“คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ1.25% แต่ที่น่าสนใจคือมุมมองเศรษฐกิจในปี2563 ที่กนง. ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ลงมาเรื่อยๆตลอดปีจาก3.9% มาอยู่ที่3.3% ในปัจจุบันเชื่อว่าถ้ากนง.ปรับมุมมองว่าเศรษฐกิจปีหน้าอาจแย่ลงจนขยายตัวต่ำกว่า3.0% ตลาดก็จะตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยนโยบายต่อในปีหน้า
นายจิติพล กล่าวว่า ด้านเงินบาทช่วงนี้ระหว่างวันมักมีการอ่อนค่าตามตลาดทุนที่ผันผวนแต่ก็มีแรงซื้อสวนกลับลงมาในช่วงบ่ายส่งผลให้โดยรวมเงินบาทไม่เคลื่อนมากนัก อย่างไรก็ดี ถ้าการประชุมกนง. มีเซอไพรซ์“ลด” อัตราดอกเบี้ยลงในรอบนี้ เงินบาทจะอ่อนค่าลงได้ราว5-10สตางค์ ขณะเดียวกันก็จะช่วยให้ภาพเงินทุนไหลออก ในปี2563 ชัดเจนมากขึ้นเพราะนักลงทุนไทยจะต้องออกไปลงทุนต่างประเทศเพื่อหาผลตอบแทนความเสี่ยงต่ำที่มีผลตอบแทนเหมาะสมนอกประเทศมากขึ้น คาดกรอบเงินบาทวันนี้30.20-30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
