ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเผยขึ้นค่าแรงยังไม่กระทบ แถมทิศทางยังโตดีสวนกระแส

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ นายกสมาคมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่มีผลในวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นวันแรก ขณะนี้ในส่วนของราคาวัตถุดิบในการผลิตสินค้า ยังไม่ได้ปรับขึ้นตาม เพราะคงต้องรอดูในระยะถัดไป เนื่องจากตามปกติแล้ว เมื่อมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สินค้าอุปโภคและบริโภคในตลาดจะปรับราคาขึ้นตาม ให้สินค้าที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตก็จะขึ้นราคา แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นแนวโน้มอะไรที่ชัดเจน โดยปกติการขึ้นค่าแรงจะไม่ส่งผลกระทบกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซในทางตรง เนื่องจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซไม่ได้ใช้แรงงานเป็นจำนวนมากๆ เหมือนกับโรงงาน หรือธุรกิจขนาดใหญ่ และส่วนมากแรงงานในตลาดอีคอมเมิร์ซก็มีค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว

“ผลกระทบที่เกิดขึ้น จะมาในทางอ้อมแทนคือ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะทำให้สินค้าอุปโภคและบริโภคมีราคาแพงขึ้น สวนทางกับกำลังซื้อที่ไม่ได้ปรับขึ้นตาม แม้จะขึ้นค่าแรงแต่ก็ต้องยอมรับว่า สินค้าที่ปรับราคาขึ้นส่วนใหญ่จะขึ้นมากกว่าค่าแรงหลายบาท โดยจากนี้จะต้องติดตามต่อว่า อะไรก็ขึ้นก่อน อะไรจะขึ้นตาม แล้วธุรกิจอะไรจะไปก่อนกัน เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดีด้วย ผู้ประกอบการหลายรายจึงไม่กล้าขึ้นราคา เพราะกลัวจะส่งผลกระทบต่อยอดขาย จึงต้องรอดูต่อว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร”นายภาวุธกล่าว

นายภาวุธกล่าวว่า ในปี 2563 ภาพรวมเศรษฐกิจยังมีทิศทางชะลอตัว แต่ในส่วนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะหากธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งธุรกิจทั่วไปดูมีทิศทางไปได้ไม่ดีเท่าที่ควร คนส่วนใหญ่ก็จะหันมาสนใจในอีคอมเมิร์ซ ที่สะท้อนได้จากปี 2562 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตเร็วมาก ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งโลจิสติกส์เติบโตอย่างรวดเร็วตามไปด้วย นอกจากนี้ มองว่าการปรับขึ้นค่าแรงอาจทำให้อีคอมเมิร์ซได้รับอานิสงค์เชิงบวกมากขึ้น เพราะธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง สินค้ามีคุณภาพ ราคาเข้าถึงได้ง่าย และที่สำคัญสามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีความสะดวกสูงมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image