เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้านี้แข็งค่าที่ระดับ 30.14 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่30.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ คาดกรอบเงินบาทวันนี้ 30.10-30.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยในวันทำการแรกของปีตลาดการเงินทั่วโลกอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง(Risk on) หุ้นแทบทุกประเทศที่เปิดทำการปรับตัวขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งสหรัฐดัชนีS&P500 บวก0.84% ทำสถิติใหม่ตลอดกาลเช่นเดียวกันกับฝั่งยุโรปที่ดัชนีEuro STOXX 50 ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3793 จุดห่างจากจุดสูงสุดเดิมในช่วงปี 2558 ไม่ถึง1%
นายจิติพล กล่าวว่า ฝั่งเศรษฐกิจยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนักและประเด็นที่น่าสนใจจะเริ่มมีมากขึ้นในสัปดาห์หน้าอย่างไรก็ดีตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่สัปดาห์ล่าสุด(Initial Jobless Claims) ที่ระดับ2.22 แสนตำแหน่งอาจทำให้มีความสงสัยว่าการจ้างงานในสหรัฐจะสามารถไปได้ต่ออีกแค่ไหนขณะที่ในฝั่งตลาดการเงินเริ่มเห็นเงินดอลลาร์สหรัฐหยุดอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆในระยะสั้นหลังจากที่หุ้นสหรัฐปรับตัวบวกแรงแม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ10 ปีจะทรงตัวที่1.87% แต่นักลงทุนบางกลุ่มยังคงมุมมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดดอกเบี้ยต่อในปีนี้ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงได้ต่อในระยะยาว
“ฝั่งเงินบาทหลังจากกระโดดขึ้นมาซื้อขายในระดับเดียวกับช่วงครึ่งเช้าของวันสิ้นปีที่ 30.10 บาทต่อดอลลาร์ก็แทบไม่เคลื่อนไหวมีการไล่ราคาขึ้นอีกครั้งท้ายตลาดไปปิดที่ 30.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐกลายเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดของเอเชียในวันทำการแรกของปีวันนี้มองเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อได้ตามทิศทางของดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินเอเชียขณะเดียวกันผู้ส่งออกกว่า50% ก็ยังไม่กลับมาเปิดทำการทำให้ไม่มีแรงขายดอลลาร์สหรัฐกดดัน” นายจิติพลกล่าว
