นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.พร้อมผ่อนปรนเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการแอลทีวี) หากพบว่ามาตรการแอลทีวีตึงเกินไปหรือส่งผลกระทบข้างเคียงที่มากเกินควร โดยได้มีการทบทวนและประเมินผลต่อเนื่องร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องหลังจากที่ได้เริ่มได้มาตรการแอลทีวีมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2562 และก่อนหน้านี้ได้มีการผ่อนปรนมาตรการแอลทีวีให้ผู้ร่วมที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในบ้านอยู่อาศัย โดยเป้าหมายของมาตรการแอลทีวีเพื่อต้องการส่งเสริมให้ประชาชนมีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่เหมาะสม และความเปราะบางจากดีมานด์เทียมในภาคอสังหาริมทรัพย์ นายวิรไทกล่าวว่า มาตรการแอลทีวีที่ออกมาไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ต้องการที่อยู่อาศัยจริง โดยค่าเฉลี่ยแอลทีวีของการกู้สัญญาแรกไม้ได้รับผลกระทบทรงตัวอยู่ราว 88-89% ขณะที่ค่าเฉลี่ยแอลทีวีการกู้สัญญาที่สองขึ้นไปลดลงมาอยู่ที่ราว 81-82% จากเดิมที่ใกล้เคียงสัญญาแรกถือว่าสะท้อนมาตรฐานการพิจาณาสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่รัดกุมขึ้น ทั้งนี้ พบว่าการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอลงโดยเฉพาะอาคารชุด โดยมูลค่าการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ของระบบธนาคารพาณิชย์ช่วง 11 เดือน ระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน โดยการกู้สัญญาที่ 2 ขึ้นไป ติดลบ 17.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แบ่งเป็นอาคารชุดติดลบ 25.3% ส่วนแนวราบติดลบ 10.4%
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. กล่าวว่า ธปท. และกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการหารือและประเมินผลมาตรการแอลทีวี ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะมีการผ่อนปรนหรือปรับปรุงมาตรการแอลทีวีอย่างไรบ้าง คาดว่าจัดเจนภายในเดือนมกราคมนี้ อย่างไรก็ดี ข้อสรุปที่เกิดขึ้นจะต้องนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรรมการพิจารณาด้วย เพราะเป็นนโยบายการกำกับสถาบันการเงินภาพรวม (แมคโครพรูเด็นเชียล) “ขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนมาตรการแอลทีวีที่ออกมาว่าเป็นอย่างไร มีประสิทธิผลหรือไม่ เพราะเราไม่ต้องการที่จะให้เกิดดีมานด์เทียมและคนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ในราคาเหมาะสมจึงต้องนำข้อมูลจริงที่เกิดขึ้นมาดู ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะผ่อนปรนแอลทีวีการกู้บ้านสัญญาที่ 2 ให้ได้ 100% เหมือนสัญญาแรกนั้น จากการหารือกันมีมีข้อเสนอต่างๆ และทางเลือกหลายแนวทาง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้” นายรณดลกล่าว
