คลุกวงหุ้น : “ทรีนีตี้” ชี้หุ้นไทยยังแกว่ง ให้กรอบเคลื่อนไหวไม่เกิน 1,600 จุด (ชมคลิป)

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า มองภาพรวมตลาดหุ้นยาวจนถึงสิ้นปี 2562 ประเมินว่าภาพรวมดัชนีหุ้นน่าจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและอิหร่านคลายตัวลง โดยให้แนวต้านที่ระดับ 1,560 จุด แนวรับที่ระดับ 1,600 จุด ซึ่งถือเป็นระดับที่มีผลต่อจิตวิทยาของนักลงทุนด้วย สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การเจรจาการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐและจีน ที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากจีนได้เปิดเผยว่าจะเดินทางไปยังสหรัฐ เพื่อลงนามข้อตกลงทางการค้าในวันที่ 15 มกราคมนี้ ซึ่งมองว่าข่าวดีน่าจะอยู่ในราคาระดับหนึ่งแล้ว ทำให้หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน ตลาดหุ้นก็จะมีบรรยากาศที่ดีต่อไป แต่หากมีอะไรพลิกล็อกหรือมีการเลื่อนการลงนามออกไปอีก จะส่งผลให้ดัชนีหุ้นปรับระดับลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

นายณัฐชาตกล่าวว่า รวมถึงความเป็นไปได้ในการจัดประมูลธุรกิจเทสโก้ โลตัสในเอเชีย รอบแรกวันที่ 15 มกราคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ไทยหรือในเอเชียก็ตาม โดยต้องติดตามว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) รายใดที่สนในเข้าร่วมการประมูลหรือไม่ รวมทั้งการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือจีดีพีของจีน ประจำไตรมาส 4 ของปี 2562 ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์ว่าจะสามารถขยายตัวได้ โดยหากตัวเลขเปิดเผยมาแล้วพบว่า ไม่ได้แตกต่างจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้มากนัก ก็จะไม่สร้างความแปลกใจเท่าที่ควร แต่หากออกมาแล้วแย่ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้อย่างมีนัยยะสำคัญ ก็จะสร้างบรรยากาศต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ได้ และการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ ในช่วงเดือนมกราคมนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.25% และน่าจะเป็นสัญญาณชี้นำต่อมายังการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563

“ปัจจัยในประเทศ เป็นทิศทางค่าเงินบาท ซึ่งล่าสุดสหรัฐได้รายงานตัวเลขออกมาว่า ประเทศไทยเกินดุลสินค้านำเข้าจากสหรัฐมากเกินไปแล้ว ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงต้องปรับท่าทีของตนเองในการเข้าแทรกแซงตลาดเงินมากขึ้น จึงประเมินว่าเงินบาทน่าจะมีแนวโน้มแข็งค่ามากขึ้นได้ โดยมองว่าภาพทั้งปี คาดว่ามีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวหลุดระดับ 30 ยาทต่อเหรียญสหรัฐได้ สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ ในช่วงปลายปี 2562 ได้แนะนำให้นักลงทุนเข้าสะสมหุ้นในระดับ 1,570-1,580 จุด ซึ่งตรงกับระดับดัชนีหุ้นในขณะนี้พอดี ทำให้นักลงทุนที่เข้าสะสมหุ้นในรอบที่ผ่านมา สามารถถือครองต่อไปได้ เพราะมองว่าเดือนมกราคม 2563 น่าจะเป็นอีกครั้งที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก เหมือนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นหากดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นไปเหมือนที่คาดไว้ ก็น่าจะให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกได้” นายณัฐชาตกล่าว

Advertisement

ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image