“กัลฟ์”แนะรัฐดูแลเอสเอ็มอี-ฐานราก ลงทุนแก้แล้ง เสนอรัฐดันภูเก็ตเป็นสเปเชียล อีโคโนมิค โซน

 

เมื่อเวลา 11.44 น. วันที่ 15 มกราคม 2563 ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนา 2020 ปีแห่งการลงทุน : ทางออกประเทศไทย ที่จัดโดยเครือมติชน ภายใต้หัวข้อ ปีแห่งการลงทุน ทางออกประเทศไทย ว่า ปัจจุบันพื้นฐานการศึกษาของไทยยังตอบสนองต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ ไทยควรมองประเทศรอบไทยว่าเดินไปอย่างไร ยกตัวอย่างมีคนไทยคนหนึ่งได้ทุนจากรัฐบาลเรียนต่างประเทศ มหาวิทยาลัยชั้นนำ เมื่อกลับมาใช้ทุน แต่หน่วยงานรัฐกลับให้ทำงานแค่จดวาระการประชุม จึงตัดสินใจลาออก และกู้เงินใช้ทุน และออกไปทำธุรกิจ เรื่องนี้ภาครัฐต้องกลับมาดู เพราะกำลังสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ

นายสารัชถ์ กล่าวว่า ไทยมีโอกาสการลงทุนตลอดเวลา แต่ปัญหาคือผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ(จีดีพี) กับประชาชนฐานราก หรือ รากหญ้า ไม่โตตามไปด้วย ตอนนี้รากหญ้ากำลังประสบปัญหา ต้องดูแลส่วนนี้ ส่วนเรื่องระบบสินเชื่อพบว่ามีปัญหาเช่นกัน อย่างกัลฟ์กู้เงินในไทยหรือต่างประเทศไม่ยาก แต่ถ้าเป็นเอสเอ็มอีอยากกู้เงิน 100-200 ล้านบาท จะเจอธนาคารเข้มงวดมากกว่า ดังนั้นหากไม่สามารถแก้ภาพรวมเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนได้ จะกระทบต่อระบบสินเชื่อดังกล่าว

นายสารัชถ์ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟฟ้าของไทย ปัจจุบันดำเนินการไปมาก แต่พบความประหลาดคือไม่เชื่อมโยงกัน ต้องรอรถประจำทาง อยากให้ภาครัฐดูแลส่วนนี้ หรืออย่างการสร้างโลคอลโรด ถนนวิภาวดี หรือบางนา โทลเวย์ เมื่อก่อนโดนค้าน แต่ปัจจุบันมีประโยชน์ ดังนั้นจึงเห็นว่ารัฐควรลงทุนระบบสาธารณูปโภค แม้จะโดนต่อว่าก็ต้องทำ

Advertisement

นายสารัชถ์ กล่าวว่า สำหรับภาคเกษตร ประเทศไทยเจอปัญหาทั้งน้ำแล้ง น้ำท่วม ไม่เข้าใจทำไมเจอปัญหานี้ตลอด เมื่อดูต่างประเทศ อาทิ อิสราเอล ทำไมทำระบบบริหารน้ำได้ ส่วนหนึ่งเพราะการลงทุนระยะยาว อยากให้ทำโครงการลักษณะร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน(พีพีพี)ในประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว เมืองไทยถึงเวลาต้องกล้าลงทุนเพื่อแก้ปัญหาต่างๆในระยะยาว

“สำหรับไทยแม้อดีตสถานการณ์การเมืองจะมีความวุ่นวาย มีความเห็นทางการเมืองต่างกัน มีกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง แต่นักลงทุนยังอยู่กับไทย เพราะกฎหมายไทยมีเสถียรภาพ นี่คือจุดเด่น กล่าวโดยสรุป ปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุน จะมาจากความมั่้นคงทางการเมือง ข้อกฎหมายวุ่นวายหรือไม่ เสถียรภาพของประเทศ กำลังซื้อในประเทศ ที่ผ่านมาไทยเป็นฐานการผลิตเป็นหลัก ไม่ได้ครีเอทสร้างมูลค่าเอง ทำให้ปัจจุบันมีการย้ายฐานไปประเทศต้นทุนต่ำ และเสถียรภาพเรื่องเงิน ค่าเงินต้องไม่ผันผวน เพราะมีผลต่อการลงทุน”นายสารัชถ์กล่าว

นายสารัชถ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยเปิดการลงทุนด้วยระบบพีพีพี จะเป็นสิ่งที่ดี เพราะปัจจุบันมีต่างชาติต้องการเข้ามาอยู่ในอาศัยในไทย แต่มาแต่ตัว ไม่ใช้เงิน ไทยควรให้เงินต่างชาติเข้ามาด้วย ดังนั้นไทยต้องมีระบบสาธารณูปโภคที่พร้อมรับการลงทุน มีระบบโทรคมนาคมที่รองรับ 5จี หรือไป6จี ยิ่งดี

Advertisement

นายสารัชถ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างมุ่งลงทุนในเวียดนาม มีเพื่อนนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนอุตสาหกรรมยาขั้นสูง ในเวียดนาม นายกรัฐมนตรีของเวียดนามให้คำมั่นนักลงทุนให้เข้าลงทุนในเวียดนาม นอกจากนี้จากการสอบถามพบว่ารัฐบาลเวียดนามให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีสูงสุดถึง 50 ปี แต่ไม่ได้ให้ทุกเทคโนโลยี เวียดนามจะเลือกเฉพาะธุรกิจที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงไม่กี่ธุรกิจ นอกจากนี้จากการติดตามธุรกิจที่ลงทุนในเวียดนาม พบว่า มีบริษัทระดับโลกอย่างซีเกท ไอบีเอ็ม จนสามารถเป็นไฮเทค พาร์ค ในเวียดนามได้ เรื่องนี้อยากสะท้อนให้เกิดในไทยเช่นกัน

นายสารัชถ์ กล่าวว่า หากติดตามการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ ตอนนี้มีผู้นำที่สามารถผลักดันจีดีพีโตถึง 7% เมื่อถามนักลงทุนของฟิลิปปินส์พบว่า ได้เปรียบเรื่องภาษี และเน้นส่งคนฟิลิปปินส์ออกไปทำงานต่างประเทศ สร้างเงินเข้าประเทศมหาศาล และอดีตเคยเป็นประเทศเกษตรกรรมแต่ปัจจุบันลดลงมาก ทิศทางประเทศเปลี่ยนไป เน้นรับการลงทุนมากขึ้น เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย ทุกธุรกิจจะอยู่ได้ ต้องมีมุมมองธุรกิจ ดิสรัปทีฟไม่น่ากังวลหากปรับตัว และพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป

นายสารัชถ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ การออกไปลงทุนต่างประเทศ ตามขั้นตอนต้องผ่านสิงคโปร์ก่อนเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตรา ทุกบริษัทต้องทำเหมือนกัน อยากเสนอจังหวัดภูเก็ตเป็นสเปเชียล อีโคโนมิค โซน ได้หรือไม่ เพราะขนาดใกล้เคียง และต่างชาติจำนวนมากเดินทางเข้าไปเที่ยว ส่วนประเทศที่ไทยควรไปลงทุนต้องเลือกประเทศที่แข่งขันได้ ไม่ใช่ทำธุรกิจที่ไม่รู้ ทั้งนี้แม้คนไทยไม่ได้ถูกสร้างต้องไปทำงานต่างประเทศ แต่ต้องปรับตัว บริษัทต้องเทรนพนักงานของตัวเองเพื่อให้มีพื้นฐานในการออกไปใช้ชีวิต ออกไปทำงาน ดูตัวอย่างประเทศจีน ถือเป็นประเทศที่มีบริษัทพร้อมออกไปลงทุน อาทิ เซเนกัล ซึ่งประเทศอื่นคงไม่กล้าไปลงทุน เพราะจีนมีการฝึกฝนเรื่องนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image