“กลุ่มเฟรเซอร์สฯ” มั่นใจลงทุนไทย ดึงต่างชาติร่วมทุนเน้นลงทุนยาว แนะพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพบุคคลากรรองรับ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 มกราคม 2563 ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวในงานสัมมนา 2020 ปีแห่งการลงทุน : ทางออกประเทศไทย ที่จัดโดยเครือมติชน ภายใต้หัวข้อ ปีแห่งการลงทุน ทางออกประเทศไทย ว่า เฟรเซอร์สฯ เริ่มต้นธุรกิจจากฐานในประเทศ​สิงคโปร์ ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจ​ครอบคลุม​ 25 ประเทศ กว่า 70 เมือง โดยหากธุรกิจมีระบบการทำงานที่ชัดเจนจะทำธุรกิจได้คล่องตัว ขณะนี้เฟรเซอร์สได้เข้ามาลงทุนในไทย โดยอยู่ระหว่างการพัฒนา โครงการวัน แบงค็อก ซึ่งการเข้ามาลงทุนมองเรื่องความมีเสถียรภาพของประเทศ รวมทั้งไทยกำลังมีการขยายโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งโครงการวัน แบงค็อก ดำเนินการก่อสร้างมาช่วง 1 ปีครึ่งสอดคล้องไปกับแผนการลงทุนสาธารรูปโภคที่เกิดขึ้นในกรุงเทพ

นายปณตกล่าวว่า อย่างไรก็ดี เฟรเซอร์ส มองว่า การพัฒนาด้านโครงสร้างที่เป็น ปูน เหล็ก มีความสำคัญเพียง 40% ส่วนอีก 60% เน้นการพัมนาด้านซอฟแวร์หรือการพัฒนาด้านบุคคากร เพื่อตอบโจทย์ว่าเราคิดถึงเรื่องอนาคตมากแค่ไหน

“เศรษฐกิจมั่นคงเราลงทุนได้ และเราจะเป็นลูกโซ่ให้ธุรกิจอื่นได้ประโยชน์ด้วย แม้ว่าเราลักษณะของเราจะเป็นดีเวลอปเปอร์และเป็นแลนด์ลอร์ด แต่มองว่าเราเป็นพีเพิลคอมปานี ไม่ได้เป็นแอสเซทคอมปานี เราไม่ได้มองเรื่องลูกค้าต้องเช่าพื้นที่มากเท่าไร แต่เรามองว่าลูกค้าจะได้อะไรที่คุ้มค่ามากที่สุดได้อย่างไร ซึ่งจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เราเน้นให้ลูกค้าได้ประสิทธิภาพมากขึ้นจากการนำเทคโนโลยีมาใช้” นายปณต กล่าว

นายปณต กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการลงทุนเอกชนพร้อมตอบสนอง เรามองประเทศไทยยังมีโอกาสอีกเยอะ แต่เราต้องมีการพัฒนาบุคลากร และไทยต้องรวมพลังงานกับอาเซียนเพื่อสื่อสารออกไปยังต่างประเทศ และจะช่วยดึงนักลงทุนให้เข้ามาในภูมิภาค ที่ผ่านมาเฟรเซอร์สเข้ามาลงทุนในไทย นำนักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมทุน เช่นเดียวกับ บริษัทกัลฟ์ฯ ทีมีการนำนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาเพื่อลงทุนระยะยาว มีการสร้างองค์ความรู้ให้กับประเทศสร้างการเติบโตไปด้วยกัน ไม่หวังเฉพาะการนำกำไรกลับไปประเทศเท่านั้น

Advertisement

“ในปีนี้เราจะมีการลงทุนมาหกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยกว่า 30% จะเป็นการลงทุนเรื่องคน โดยปัจจุบันกลุ่มเฟรเซอร์สมีการบริหารทรัพย์สินกว่า 9 แสนกว่าล้านบาททั่วโลก ซึ่งเรามีการลงทุนในต่างประเทศทั่วโลกได้ผลตอบแทนกลับมา แต่ศักยภาพการขยายตัวในภูมิภาคอื่นยังไม่เท่าในภูมิภาคอาเซียนที่การเติบโตอยู่ในระดับสูง โดยกลยุทธ์ของเราแบ่งเป็นการเวียดนามหนึ่งกลุ่ม การลงทุนในกลุ่มซีแอลเอ็มวี และอาเซียน โดยการเข้าไปลงทุนจะเข้าไปเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจในท้องถิ่นจะไม่ได้เข้าไปเบียดเบียน ทั้งนี้ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องที่ต้องใจเย็น เพราะหากใครคนใดคนหนึ่งเข้าไปทำหมด จนต้องรอตลาดรีเซ็ทใหม่กว่าที่ภาคอสังหาริมทรัพย์จะรีเซ็ทกลับมาได้จะเหนื่อยมาก” นายปณต กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image