ทาลิส ตั้งเป้าปี63ทะลุ2หมื่นล. ชี้”โคโรนา”หนึ่งใน5ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นครึ่งปีแรก

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทาลิส จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปี 2562  ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญความผันผวนต่อเนื่องตลอดทั้งปี แต่ยังมีนักลงทุนส่วนหนึ่งมองเห็นโอกาสและใช้เป็นจังหวะลงทุน เพื่อเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนระยะยาว บวกกับความเชื่อมั่นที่มีต่อทีมผู้จัดการกองทุนของบลจ.ทาลิส ต่อการกำหนดกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นไทย จึงทำให้ปี 2562 เป็นปีแห่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหาร (AUM) ณ สิ้นปี 2562 รวม 13,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 131% จากสินทรัพย์รวม 5,664 ล้านบาทในปี 2561

นายฉัตรพี กล่าวว่า การเติบโตดังกล่าว มาจากการขยายตัวของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลเป็นหลัก ซึ่งมีสัดส่วนถึง 83% ของสินทรัพย์ทั้งหมด โดยมีลูกค้าสถาบันจากต่างประเทศให้ความไว้วางใจเพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้  ณ สิ้นปี 2562 กองทุนส่วนบุคคลที่ลงทุนในหุ้นไทยมีสินทรัพย์รวม 11,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4,529 ล้านบาทจากปี 2561 ขณะเดียวกัน กองทุนส่วนบุคคลที่เน้นกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นปันผลและหลักทรัพย์กลุ่มREIT ยังทำผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น โดยตลอดทั้งปี 2562 สามารถทำผลตอบแทนได้ถึง 15.72% เทียบกับผลตอบแทนรวม SET Index ที่เพิ่มขึ้นเพียง 4.29% เท่านั้น 

โดยปี 2563 บลจ.ทาลิส ตั้งเป้าการเติบโตของสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหารอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 50% นอกจากธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลจะเป็นเป้าหมายหลักแล้ว ในแง่ของธุรกิจกองทุนรวม ยังมีแผนเปิดรับการสับเปลี่ยนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว( LTF) สำหรับผู้ที่ต้องการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ปัจจุบันมีกองทุน LTF ภายใต้การบริหาร 2 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนเปิดทาลิส หุ้นระยะยาว (TLLTFEQ) และกองทุนเปิดทาลิส DIVIDEND STOCK หุ้นระยะยาวปันผล (TLDIVLTF-D)

Advertisement

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ทาลิส  กล่าวว่าการลงทุนปี 2563 โดยรวม เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นจากปีที่ผ่านมา แม้ช่วงแรกอาจได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย บลจ.ทาลิส คาดว่า SET Index ปีนี้ จะแกว่งตัวช่วง 1,500 – 1,750 จุด ภายใต้ประมาณการณ์การเติบโตของ EPS ประมาณ 10% ธุรกิจทาลิส ให้ความสนใจว่าปี 2563-64 จะเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อเนื่อง และสามารถประมาณการกำไรได้ง่ายคือ กลุ่มพาณิชย์ กลุ่มเงินทุน และกลุ่มขนส่ง-ทางอากาศ

“ พัฒนาการของสงครามการค้า ความกังวลเกี่ยวกับสงครามและการก่อการร้าย รวมถึงการแพร่กระจายของโรคไวรัสโคโรน่า ผลกระทบจากปัจจัยภัยแล้ง  และการใช้จ่ายงบประมาณ ปี 2563 ที่อาจล่าช้า ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยในครึ่งแรกของปีนี้ “

นายประภาส  กล่าวว่า ขณะเดียวกัน หากอัตราดอกเบี้ยปี 2563 ของไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีก จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยเช่นกัน  หากดอกเบี้ยลดลง 0.25%จะทำให้เป้าหมาย SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 70-80 จุด หากประมาณการกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนถูกปรับลดลง 4% จะหักล้างผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยลดลง 0.25% เช่นกัน

Advertisement

“ปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ SET Index เป็นขาขึ้นได้ ส่วนหนึ่งเพราะปี 2562  ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ และผลประกอบการที่ออกมาไม่ดีนัก บวกกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้เชื่อว่าเม็ดเงินจากการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องทั่วโลก จะโยกมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย” นายประภาส กล่าว 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image