เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้านี้อ่อนค่าที่ระดับ 31.02 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 7 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ทั้งนี้ อ่อนค่าลง 3.6% จากช่วงปลายปีก่อนอยู่ที่ 29.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ คาดกรอบเงินบาทวันนี้ 30.95-31.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดการเงินฝั่งสหรัฐสามารถต้านทานไวรัสโคโรนาไว้ได้ด้วยผลประกอบการณ์ของบริษัทจดทะเบียนที่ยังคงดีกว่าคาดและนโยบายการเงินที่มีแนวโน้มผ่อนคลายในคืนที่ผ่านมา
นายจิติพล กล่าวว่า ล่าสุดดัชนี S&P500 ปรับตัวลงเพียง 0.1% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง 7.2bps มาที่ระดับ 1.58% หลังผลการประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50-1.75% ตามที่ตลาดหวังไว้และคงมีมุมมองว่าดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจขณะที่เงินเฟ้อก็อยู่ในระดับต่ำแม้เฟดจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับทุนสำรองส่วนเกิน(IOER) ขึ้น 0.05% มาที่ระดับ 1.60% แต่ตลาดก็ไม่ได้มองเป็นนโยบายการเงินที่เข้มงวดและนักลงทุนส่วนใหญ่ก็มีความเชื่อมั่นว่าไม่มีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐจะสามารถกลับไปขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ในปีนี้
นายจิติพล กล่าวว่า ด้านสถานการณ์ของไวรัสโคโรนาระบาด ล่าสุดยังคงมีตัวเลขผู้เสียชีวติเพิ่มขึ้นถึง 170 รายในจีนขณะที่ในไทยก็มีผู้ติดเชื้อรวม 14 รายสูงเป็นอันดับที่สองของโลก ล่าสุดก็มีความกังวลว่าองค์การอนามัยโลกจะประกาศเตือนภัยโรคระบาดซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาคขนส่งและท่องเที่ยวตลาดจึงมีความกังวลต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยฝั่งตลาดเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินปลอดภัยแม้จะมีมุมมองว่าเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยแต่ก็เป็นประเทศใหญ่ที่คาดว่าจะได้รับผลเสียจากไวรัสน้อยที่สุดปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักค้าเงินทั่วโลกยังคงสถานะขายเงินบาทเพราะเชื่อว่าเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่าได้อีกจากทั้งเศรษฐกิจที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในเอเชียเพราะพึ่งพาการท่องเที่ยวมากขณะเดียวกันการบริโภคในประเทศก็น่าจะมีปัญหาจากนโยบายการคลังที่ติดขัดจึงเป็นเศรษฐกิจและค่าเงินที่มีความเสี่ยงมากที่สุดในช่วงนี้
