| ผู้เขียน | อัมพวัน อยู่กระทุ่ม |
|---|
หลังจากผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 7 ราย ได้แก่ บริษัท สปริง 26 จำกัด (ช่อง 26 หรือช่องนาวเดิม), บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด (ช่อง 19 หรือช่องสปริงนิวส์), บริษัท ไบรท์ ทีวี จำกัด (ช่อง 20), บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด (ช่อง 21), บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (ช่อง 14 หรือช่องเอ็มคอตแฟมิลี่), บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 28 หรือช่อง 3 เอสดี) และบริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 13 หรือช่อง 3 แฟมิลี่) คืนใบอนุญาตตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คำสั่งที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เดือนเมษายนปีก่อน
ผ่านไปไม่ถึงปี “ช่องโมโน 29” หรือบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับลดพนักงานล็อตใหญ่ 200-300 คน หลังรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า เป็นปฏิบัติการแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยใดๆ ซ้ำให้พนักงานที่โดนปลดเก็บข้าวของออกจากบริษัททันที แต่ทางบริษัทได้จ่ายค่าตอบแทนการจ้างออกตามกฎหมาย รวมถึงค่าตกใจจำนวนหนึ่ง
โดยไตรมาส 3 ปี 2562 โมโนรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า มีรายได้ 439.98 ล้านบาท ลดลง 32.56 ล้านบาท หรือ 7.85% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 123.40 ล้านบาท หรือ 24.40% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีเดียวกัน ซึ่งมีรายได้ 528.30 ล้านบาท
ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) แย้มว่า เร็วๆ นี้น่าจะเกิดสถานการณ์ทีวีดิจิทัล 2-3 ช่อง เลิกจ้างพนักงานอีก และมี ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทำท่าจะแจ้งความประสงค์ขอคืนใบอนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้วย
“สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอคืนใบอนุญาตได้ โดยส่งหนังสือถึง กสทช. จากนั้นจะนำเรื่องเข้าที่ประชุม กสทช. เพื่อมีมติให้หยุดประกอบกิจการ เยียวยาประชาชน และพนักงานที่ได้รับผลกระทบ จากนั้นกำหนดกรอบยุติการออกอากาศภายใน 30 หรือ 60 วัน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทราบต่อไป” เลขาธิการ กสทช.ให้ข้อมูล
แต่ถ้ากรณีผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 7 รายที่ขอคืนใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้เทียบเคียง คือจะไม่ได้รับเงินเยียวยาสักกะบาท
จะไปต่อแบบเจ็บกระอักหรือพอแค่นี้ อยู่ที่ผู้ประกอบการตัดสินใจ
