น้ำมันดิบขยับจ่อ50ดอลลาร์/บาร์เรล ทองคำบวก9เหรียญ

แฟ้มภาพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา(29มิ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์บวกกว่า280จุด และปิดในแดนบวกติดต่อกัน2วันทำการ หลังตลาดได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมากว่า 4% ผลจากการคาดการณ์ของนักลงทุนที่มีการประเมินธนาคารกลางชั้นนำของโลกอาจจะมีการออกมาตรการเพื่อรับมือกับผลกระทบหลังอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit

ทำให้หลังปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 17,694.68 จุดบวก 284.96 จุด หรือ +1.64% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ระดับ 4,779.25 จุด บวก 87.38 จุด หรือ +1.86% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ระดับ 2,070.77 จุด บวก 34.68 จุด หรือ +1.70%

ด้านน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมาขยับเข้าใกล้50ดอลลาร์/บาร์เรลอีกรอบ โดยสัญญาน้ำมันดิบงวดส่งมอบเดือนส.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ หรือ 4.2% ปิดตลาดที่ระดับ 49.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ออกมาเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้รวมถึงปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่อังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ไปปิดตลาดที่ระดับ 50.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก( COMEX)ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 9.00 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 0.68% ปิดตลาดที่ระดับ 1,326.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้ความไม่แน่นอนหลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ยังคงเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอยู่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image