ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม นายประจิน จันทรพานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.มอบของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องเกษตรกร ประกอบด้วยโครงการ “ชำระดี มีคืน” โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับพี่น้องเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ที่มาชำระหนี้ธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 โดยคืนดอกเบี้ยร้อยละ 3-5 ตามชั้นของลูกค้า
โดยลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ที่ดี 3 ปี ติดต่อกันจะได้รับคืนดอกเบี้ยคืน 5% ลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ที่ดี 2 ปี ติดต่อกันขึ้นไปจะได้รับดอกเบี้ยคืน 4% และสำหรับลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ได้ตามกำหนดติดต่อกัน 1 ปี หรือเป็นลูกค้าใหม่จะได้รับดอกเบี้ยคืน 3% ซึ่งเกษตรกรลูกค้าในจังหวัดสิงห์บุรีจะได้รับประโยชน์ 5,376 ครัวเรือน สำหรับสถาบันเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตร ที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับ ชั้นที่ 1-3 ได้รับคืนดอกเบี้ย 5% ที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับชั้นที่ 4-6 ได้รับคืนดอกเบี้ย 4% และที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับชั้นที่ 7-9 ได้รับคืนดอกเบี้ย 3% ทั้งนี้ ประมาณการดอกเบี้ยที่จะคืนให้เกษตรกรลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดีดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 2,800,000 บาท
สำหรับอีกหนึ่งโครงการ คือ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของภาคเกษตรไทย โดย ธ.ก.ส.มุ่งเน้นให้เกษตรกร สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชนที่เป็นลูกค้าที่ดี และมีความประสงค์จะปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่การเกษตรที่มีความยั่งยืน รวม 100,000 รายทั่วประเทศ ได้รับสินเชื่อเป็นเงินลงทุนในโครงการต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รักษาศิลปวัฒนธรรม พลังงานสะอาด ผลิตอาหารปลอดภัย การเกษตรรูปแบบใหม่ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบผ่านตัวกลางที่เหมาะสมแก่เกษตรกรรายย่อยและผู้ยากจน ซึ่งมีตัวอย่างรูปแบบการผลิตของเกษตรกร สถาบันเกษตรกรที่ดำเนินการแล้วประสบความสำเร็จ
อาทิ การทำเกษตรอินทรีย์และการผลิตอาหารปลอดภัยรูปแบบต่างๆ ตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง การทำเกษตรผสมผสานตามแนวทางทฤษฎีใหม่ การปลูกพืชตระกูลถั่วหรือพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำ นาปรัง การผลิตเมล็ดพันธุ์ตามมาตรฐาน GAP และ GMP การปลูกพืชเพื่อผลิตพลังงานทดแทนแบบครบวงจร การผลิตไม้ดอก ไม้ประดับมูลค่าสูง การส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์และสัตว์ปีกตามมาตรฐาน GAP สำหรับเกษตรกรรายย่อย การส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์แบบมีพันธสัญญา
การส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็วเพื่ออุตสาหกรรม การผลิตพลังงานทดแทน (พลังงานชีวภาพ/พลังงานชีวมวล/พลังงานน้ำ) ในชุมชน การส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในระดับชุมชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม การอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ย 4% นาน 7 ปี ระยะเวลาการชำระคืนตามศักยภาพการผลิตของลูกค้าแต่ไม่เกิน 10 ปี เริ่มจ่ายสินเชื่อตั้งแต่ 1 มกราคม 2559 ถึง 31 ธันวาคม 2561