นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มไม่ดีขึ้น ธปท.พร้อมใช้นโยบายการเงิน และเครื่องมืออื่นๆ เข้ามาช่วยควบคุม เช่นการออกมาตรการร่วมกับกระทรวงการคลัง และสถาบันการเงิน สำหรับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1% มองว่าเหมาะสมแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยต้องติดตามสถาณการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วแค่ไหน พร้อมทั้งความล่าช้าของ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ล่าช้าซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง และปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคการเกษตร
นายวิรไทกล่าวว่า ทั้งนี้การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภาวะปัจจุบันได้ทั้งหมด แต่ต้องได้รับการประสานเครื่องมือจากภาคสถาบันการเงินเข้ามาพยุงเศรษฐกิจประเทศไทยในขนาดนี้ด้วย นอกจากนี้ ธปท.ได้ร่วมประชุมกับสถาบันการเงินไทยหลายแห่ง เพื่อเน้นดูแลลูกหนี้โดยเฉพาะลูกหนี้เอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการปรับโครงสร้างหนี้เชิงรุก การช่วยดูแลสภาพคล่องในภาวะที่รายได้ของผู้ประกอบการลดลงจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ส่วนค่าเงินบาทปัจจุบันประเทศไทยประสบกับปัจจัยเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีล่าช้า โดย ธปท.จะติดตามอย่างใกล้ชิดและจะหามาตรการเพิ่มเติมหากมีการมาเก็งกำไรจนกระทบกับเศรษฐกิจในประเทศ