น้ำมันดิบร่วงเหลือ48.33ดอลลาร์/บาร์เรล ทองลดลง6.30เหรียญ

แฟ้มภาพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา(30 มิ.ย.) ยังคงปรับเพิ่มขึ้น และทำสถิติปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการแล้ว หลังตลาดตอบรับข่าวธนาคารกลางชั้นนำของโลก รวมถึงธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษที่ส่งสัญญาณว่าจะมีการออกมาตรการรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังอังกฤษลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

หลังปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับ 17,929.99 จุด บวก 235.31 จุด หรือ +1.33% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ระดับ 4,842.67 จุด บวก 63.42 จุด หรือ +1.33% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดตลาดที่ระดับ 2,098.86 จุด บวก 28.09 จุด หรือ +1.36%

ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับลดลง โดยราคาส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดตลาดที่ระดับ 48.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานข่าวว่าไนจีเรียมีการเพิ่มการผลิตน้ำมัน และแคนาดาเริ่มผลิตน้ำมันได้มากขึ้น หลังจากที่แหล่งผลิตน้ำมันภายในประเทศได้รับผลกระทบจากไฟป่าช่วงก่อนหน้านี้ ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 93 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดตลาดที่ระดับ 49.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก( COMEX)ลดลงเล็กน้อย โดยราคาส่งมอบเดือนส.ค.ปรับลดลง 6.30 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ไปปิดตลาดที่ระดับ 1,320.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังนักลงทุนมีการเทขายทองคำเพื่อหันไปลงทุนในตลาดหุ้นที่ปรับเพิ้มขึ้นมา3วันทำการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image