นายประพันธ์ พลธนะวสิทธ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ปี 2558 ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนรวม 1.68 ล้านคัน เติบโตลดลง 1.1% เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในทุคภาคส่วน รวมถึงปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมือง โดยรถจักรยานยนต์เกียร์ธรรมดา ยังคงมียอดจดทะเบียนสูงสุดถึง 50% ตามมาด้วยรถจักรยานยนต์ออโตเมติกที่ 36% และแบบสปอร์ต 14%
สำหรับยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ในปี 2558 อยู่ที่ 211,000 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 12.6% ลดลงจาก 13% ในปี 2557 แต่เมื่อแยกรายเซคเม้นท์ พบว่ามาร์เกตแชร์ของรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตเพิ่มจาก 2% เป็น 9% ส่วนออโตเมติคลดลงเล็กน้อย จาก 22% เหลือ 21% ส่วนรถเกียร์ธรรมดามีส่วนแบ่งตลาดคงเดิมที่ 8%
สำหรับคาดการณ์ยอดขายรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2559 น่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน เติบโต 1.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่น่าจะเติบโตไม่เกิน 3.5% และมีปัจจัยลบจากทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ที่ยังชะลอตัวจากความไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว รวมถึงการส่งออกที่คาดว่าเติบโตได้เพียง 2% ขณะที่ปัจจัยบวกที่สำคัญ มีเพียงการลงทุนของรัฐบาล และการท่องเที่ยวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยามาฮ่ายังคงตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2559 ไว้ที่ 250,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 18.5% และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดรวมเป็น 14.7% ส่วนแบ่งในเซ็คเตอร์รถออโตเมติคเพิ่มเป็น 22% แบบสปอร์ตเพิ่มเป็น 18% เป็นผู้นำในเซ็คเตอร์นี้ ส่วนรถเกียร์ธรรมดายังคงรักษามาร์เก็ตแชร์ที่ 8%
ด้านนางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญที่ยามาฮ่าจะใช้เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด จะเน้นการสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ภายใต้แบรนด์แคมเปญใหญ่ “Revs Your Heart” ที่ยามาฮ่าจะใช้สื่อสารทั่วโลกต่อเนื่อง 3 ปี และเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบดิจิตอล มาร์เก็ตติ้งที่สร้างสรรค์ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพกับสภาพการแข่งขันทางการตลาดยุคใหม่ สร้างยอดขายที่มากขึ้นให้กับผู้จำหน่ายด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่ ที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดยเตรียมเปิดตัวรถเพิ่มเติมอีก 4 รุ่น และสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เน้นที่กลุ่มวัยรุ่นเข้าสู่ตลาด ทั้งในส่วนของรถออโตเมติกเน้นเทคโนโลยีเครื่องยนต์บลูคอร์ ที่ประหยัดน้ำมัน มีความแรง และรักษ์โลก รถจักรยานยนต์แบบสปอร์ต ซึ่งเป็นรถสายพันธุ์จากสนามแข่ง และสายพันธุ์จากรถระดับโลก ส่วนในรถเกียร์ธรรมดา ยังพัฒนาให้มีความประหยัด และทนทานมาก
นอกจากนี้ ยังเน้นการรักษาฐานลูกค้าด้วยบริการหลังการขาย ขยายเครือข่ายโชว์รูมยามาฮ่าสแควร์ ปรับปรุงศูนย์บริการให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น พร้อมโชว์รูม และขยายเครือข่ายอะไหล่ในพื้นที่เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า และผู้ใช้รถจักรยานยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น