เฉลียงไอเดีย : มณฑกานต์ ภูกาบ สร้างชื่อ‘สยาม ออร์คิด ไทยมาสสาจ’ดังถึงอเมริกา

‘ให้ใจในทุกงานที่ทำ’
key success ของ มณฑกานต์ ภูกาบ
สร้างชื่อ‘สยาม ออร์คิด ไทยมาสสาจ’ดังถึงอเมริกา

“ทําอะไรเราต้องทุ่มเท ใส่ใจ มีความเป็นโปรเฟสชันนัล เคารพตัวเอง ซื่อสัตย์กับงานที่เราทำ จริงๆ ก็เป็นหลักการง่ายๆ ในการทำงาน แล้วความสำเร็จจะเกิดขึ้น แต่วันนี้ก็ยังไม่กล้าเรียกตัวเองว่าประสบความสำเร็จ เพราะเราต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก ที่ทำงานทุกวันนี้มีความสนุกบวกกับใจรักในธุรกิจนี้ ทุกวันที่ทำงานไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการทำงาน ได้พบปะเจอผู้คน ได้ทำให้คนที่ได้รับบริการรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจมากขึ้น ก็ทำให้เรามีความสุขในการทำงาน” แอปเปิ้ล-มณฑกานต์ ภูกาบ เจ้าของกิจการร้านนวดไทย สยาม ออร์คิด ไทยมาสสาจ ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เปิดใจถึงธุรกิจที่เธอมุ่งมั่น หลังพานวดไทยไปเติบโตไกลในต่างแทน

บรรยากาศในร้านดึงดูดลูกค้าด้วยการประดับตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้หลายสายพันธุ์ รวมถึงภาพเขียนลายกล้วยไม้ สลับกับงานแกะไม้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ บ่งบอกถึงซิกเนเจอร์ของร้านที่ใช้ดอกกล้วยไม้เป็นสัญลักษณ์ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนบรรยากาศที่ผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเท้าเข้าไปในร้าน ด้วยความใส่ใจในดีเทลเล็กๆ นี้ ทำให้วันนี้สยาม ออร์คิดฯ สามารถยืนหยัดเป็นร้านนวดไทยแถวหน้าในซานฟรานซิสโกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

Advertisement

ร้านสยาม ออร์คิดฯ สาขาแรกเกิดขึ้นในปี 2558 โลเกชั่นอยู่ใกล้กับตึกสำนักงาน เน้นเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิศที่มีปัญหานั่งติดโต๊ะทำงานนานๆ แล้วเกิดอาการปวดเมื่อย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มักเป็นลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาใช้บริการจนบางคนสนิทสนมกันเหมือนเพื่อน

ต่อมาประมาณปี 2560-2561 ก็เริ่มขยายสาขาที่ 2 ในซานฟรานซิสโก อยู่ในย่านการค้า เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางนานๆ แล้วต้องการนวดผ่อนคลาย และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการขยายสาขาที่ 3 ไปที่เมืองวอลนัทครีก แคลิฟอร์เนีย โดยจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้พักอาศัยทั่วไปในเมือง กลุ่มโลคัลเรสสิเด้นท์ ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีทั้ง 3 สาขา

Advertisement

ย้อนกลับไปครั้งแรกที่เข้ามาอยู่ในธุรกิจนี้เริ่มจากการไปเรียนนวด เพราะคิดว่าการทำงานนวดในต่างประเทศน่าจะสร้างรายได้มากกว่าร้านอาหารที่ลงทุนเปิดร้านอาหารที่รัฐยูทาห์มาก่อน แต่หลังจากผ่านไปสักพักก็เริ่มมองเห็นแล้วว่าธุรกิจที่ทำอยู่ ไม่น่าจะไปได้ดี เพราะลงทุนแล้วได้กำไรค่อนข้างน้อย ไม่เห็นโอกาสเติบโตของการลงทุน จึงอยากจะลองเปลี่ยนทำอะไรใหม่ๆ ก็มาลงตัวและตัดสินใจเปิดร้านนวด เนื่องจากได้ไปเรียนนวดและมีประสบการณ์มาแล้วระดับหนึ่ง บวกกับการลงทุนทำร้านนวดใช้เงินทุนไม่เยอะ

สำหรับระยะแรกที่เริ่มต้นธุรกิจก็พบว่าปัญหาคือ การขาดแคลนบุคลากร เพราะระยะแรกที่เริ่มกิจการนั้นต้องยอมรับว่าราคานวดต่อชั่วโมงถูก ทำให้การจ่ายค่าแรงยังแบ่งให้หมอนวดได้ไม่มาก รวมถึงความไม่เข้าใจในกฎระเบียบ ข้อกฎหมายต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ ทำให้พบเจออุปสรรคต่างๆ ซึ่งก็ต้องอาศัยประสบการณ์ เรียนรู้แก้ไขไปเรื่อยๆ

เรื่องต่อมาคือ การเลือกโลเกชั่นของร้าน เนื่องจากเริ่มจากทุนไม่มาก โลเกชั่นของร้านจึงอยู่ในชุมชนที่มีรายได้ต่ำ ทำให้กำหนดราคานวดได้ต่ำ ทิปบวกกับลูกค้าที่ยังไม่เยอะมาก ทำให้มีปัญหาเรื่องการเงินอยู่บ้าง และด้วยปัญหาเงินทุนต่ำ ทำให้ประสิทธิภาพในการดำเนินงานไม่ดีพอ เช่น ไม่ได้จ้างมืออาชีพมาออกแบบร้าน ทำให้ไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบ รวมถึงเกิดปัญหาเล็กน้อยที่กวนใจอยู่ตลอดเวลา

“อีกอย่างของการทำธุรกิจต่างประเทศคือ ด้วยเนเจอร์ของลูกค้าที่เป็นคนต่างชาติมีอะไรก็ตรงไปตรงมานั้น การจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ และสามารถแก้ไขปัญหากรณีลูกค้าไม่พึงพอใจในบริการถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากความพึงพอใจของลูกค้ามีผลกระทบต่อธุรกิจบริการค่อนข้างมาก เพราะลูกค้าสามารถรีวิวและคอมเพลนทางพับลิกออนไลน์ได้ทันที ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะมีผลต่อการเสิร์ชหาข้อมูลในการตัดสินใจใช้บริการของลูกค้ารายอื่นๆ ดังนั้นต้องรับมือกับตรงนี้ดีที่สุด” คุณแอปเปิ้ลเล่า

สำหรับการขยายธุรกิจในอนาคตนั้นขึ้นอยู่กับความลงตัวของหลายๆ ปัจจัย ทั้งเงินทุน โลเกชั่นที่น่าสนใจ และโอกาสอื่นๆ ส่วนกลยุทธ์ที่เราใช้เหมือนกันทุกสาขาคือ การสร้างภาพจำและการรับรู้ว่า เมื่อเดินเข้ามาที่ร้าน จะได้รับคุณภาพและการบริการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของสยาม ออร์คิดฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจในการใช้บริการ

การทำธุรกิจในต่างแดนมีความท้าทายหลายอย่าง โดยเฉพาะธุรกิจนวดไทยและสปาที่ไม่ใช่แค่ต้องเผชิญกับปัญหาด้านกฎหมายการค้าการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ยังมีเรื่องของเม็ดเงินลงทุน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กที่ต้องศึกษาตลาดและเทรนด์ของผู้บริโภคตลอดเวลา แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดี เพราะนวดไทยถือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ การร่วมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงมีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า

และเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ที่ยูเนสโกประกาศผลการพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ประจำปี 2019 รวม 51 รายการ และนวดไทยที่ประเทศไทยเสนอเข้าที่ประชุม ได้รับมติรับรองประกาศขึ้นทะเบียนในกลุ่มดังกล่าว มีส่วนสำคัญที่ทำให้มุมมองของบุคคลภายนอกต่อการนวดไทยดีขึ้น

คุณแอปเปิ้ลเล่าว่า ต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงงานนวดคนจะตีความหลากหลาย แต่นวดไทยที่เป็นศาสตร์ที่ตกทอดกันมานั้น คืองานที่มีเกียรติ มีคุณค่า ได้สืบสานมรดกทางวัฒนธรรม ดังนั้นใครที่เข้ามาใช้คำว่าธุรกิจนวดในการทำมาหากินต้องเคารพในสิ่งที่ทำ ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นในสายตาชาวต่างชาติ ซึ่งต้องอาศัยทีมเวิร์ก เพราะที่ผ่านมาก็พยายามสื่อสารกับทีมงานในร้านตลอดว่าเราต้องทำให้ถูกต้อง ดังนั้นก็อยากให้ทุกคนที่อยู่ในธุรกิจนี้ร่วมแรงร่วมใจกันในการส่งต่อภาพลักษณ์ที่ดีออกไป

“ต้องบอกตามตรงว่าเราไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ แต่ละคนมีประสบการณ์การรับรู้ที่ต่างกัน การมองอาชีพนวดก็สามารถเป็นไปได้หลายแบบ ทั้งเป็นอาชีพสุจริตหาเลี้ยงชีพ หรือในทางที่ไม่ดี โดยส่วนตัว ในหัวเราไม่เคยมีเรื่องพวกนั้น เราก็ไม่เคยคิดไปในทางที่ไม่ดี มองว่าเราต้องการทำธุรกิจที่สุจริตช่วยให้ครอบครัวมีรายได้ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างภาคภูมิใจ เป็นจิตวิญญาณของความมีศักดิ์ศรีของมนุษย์ ที่จะประกอบอาชีพที่สุจริต สามารถอยู่ในสังคมได้” คุณแอปเปิ้ลกล่าว

ผู้หญิงเก่งคนนี้ยังทิ้งท้ายว่า “นวดไทยเป็นศาสตร์โบราณที่มีมายาวนาน เป็นจริยธรรมของความเคารพของบรรพบุรุษของไทย ที่ใช้ความรู้ตรงนี้ให้เกิดคุณประโยชน์จะช่วยให้ผู้คน มีสุขภาพกายที่ดี ซึ่งก็จะทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีตามมา เมื่อจุดตั้งต้นของเราเป็นแบบนี้เราก็จะดึงดูดผู้คนหรือสกรีนคนที่เข้ามาทำงานที่ร้านเรา ว่าตั้งใจมาทำงานนวดจริง ไม่มีแอบแฝง”

เพราะยึดหลักทำงานด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่น ผสานกับความกล้า … “สยาม ออร์คิด ไทยมาสสาจ” จึงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และทำให้ศาสตร์การนวดไทยเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ!!

ปิยะวรรณ ผลเจริญ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image