ขสมก.ชี้แจง ติดตั้งเครื่องกรองอากาศบนหลังคารถโดยสาร

จากกรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ทดลองติดตั้งเครื่องกรองอากาศต้นแบบ เพื่อทดสอบแนวความคิดในการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ตามนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ของกระทรวงคมนาคม

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว กรณีที่นักวิชาการบางท่านได้แสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับการที่ ขสมก.ติดตั้งเครื่องกรองอากาศบนหลังคารถโดยสารของ ขสมก. ว่าเป็นเรื่องลวงโลกเช่นเดียวกับเครื่อง GT200 นั้น ขสมก.จึงขอชี้แจงข้อมูล ดังนี้ กระทรวงคมนาคมมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จึงได้ทดสอบติดตั้งเครื่องกรองอากาศต้นแบบ สำหรับติดตั้งบนหลังคารถโดยสารของ ขสมก. เพื่อทดลองกรองอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ขณะรถโดยสารวิ่งให้บริการประชาชน

นายสุระชัยกล่าวต่อว่า การทำงานของเครื่องต้นแบบใช้หลักการกวาดอากาศที่มีฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งนองอยู่บนถนนที่มีการจราจรแออัดในกรุงเทพมหานคร ในระดับสูงไม่เกิน 5 เมตร เมื่อรถวิ่งอากาศจะปะทะเข้าหน้ารถในขณะที่รถวิ่ง และผ่านเข้าเครื่องกรองโดยอัตโนมัติ ซึ่งวิธีการนี้สามารถกรองอากาศได้ในขณะที่ประหยัดพลังงาน เนื่องจากไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการดูดลมเข้าเครื่องกรองดังเช่นเครื่องกรองอากาศทั่วไป ไส้กรองอากาศเป็นไส้กรองที่สามารถกรองฝุ่นระดับ PM2.5 ได้ แต่มีราคาถูกสามารถหาซื้อได้ทั่วไป หลักการนี้เป็นหลักการเดียวกับการใช้แก้ปัญหาในเมืองเซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ (รายละเอียดข่าว https://edition.cnn.com/2020/01/24/uk/pollution-sucking-buses-scli-gbr-intl-scn/index.html ) และกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย (รายละเอียดข่าว https://www.edexlive.com/people/2018/nov/02/designed-by-delhi-researchers-this-air-filter-can-sit-atop-any-vehicle-and-clean-up-delhis-pollute-4332.html )

นายสุระชัยชี้แจงอีกว่า รถโดยสารที่ติดตั้งเครื่องกรองอากาศที่มีหน้ากว้าง 0.5 ลูกบาศก์เมตร บนหลังคา จะสามารถกวาดอากาศเข้าเครื่องกรองได้ 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อการวิ่งรถ 1 เที่ยว (เมื่อรถโดยสารวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทางยาว 20 กิโลเมตร) ซึ่งงานวิจัยในต่างประเทศระบุว่า ผู้ใหญ่ 1 คน จะสูดอากาศหายใจเฉลี่ย 0.5 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ดังนั้น รถโดยสาร 1 คัน จะสามารถกรองอากาศให้กับประชาชนที่อยู่บนถนนได้ถึง 20,000 คน จากการทดลองนำรถโดยสารที่ติดตั้งเครื่องกรองอากาศบนหลังคารถมาวิ่งให้บริการประชาชนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ในขณะที่รถวิ่ง ผลการวัดค่า PM2.5 อากาศก่อนเข้าเครื่องกรองมีค่าอยู่ในระดับ 48-52 (คุณภาพอากาศปานกลาง) ในขณะที่ อากาศที่ผ่านเครื่องกรองออกมาแล้วมีค่าอยู่ในระดับ 1-5 (คุณภาพอากาศดีมาก) การทดลองนี้เป็นความพยายามในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประชาชน โดยกระทรวงคมนาคมได้แต่งตั้งคณะทำงานจากหลายหน่วยงาน และ ขสมก.ได้ดำเนินการทดลองนี้ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม หากการทดลองต่อเนื่องได้ผลเป็นที่น่าพอใจจึงจะดำเนินการต่อไปให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามหลักเกณฑ์ของสำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image