พณ.แนะผู้ส่งออกเตรียมพร้อมหลังโควิด-19คลี่คลาย จีนทุ่มเงิน-ออกมาตรการฟื้นกำลังซื้อและเศรษฐกิจ

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า อีคอมเมิร์ซ และบริการดิจิทัลคอนเทนต์กำลังมาแรง ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 และประเมินว่าการส่งออก-นำเข้า การขนส่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติภายหลังท่าเรือ-ด่านศุลกากรจีนกลับมาเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา 

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ทำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปที่สาธารณะและใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น การค้าออนไลน์ เป็นอีกช่องทางการค้าสำคัญจะช่วยเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ที่จีนมีความต้องการสูงในระยะนี้ รวมถึงสินค้าที่ตอบสนองต่อรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้าน อาทิ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งขนาดเล็ก สินค้ากลุ่มอโรมา และผลิตภัณฑ์สปา ซี่งไทยมีศักยภาพจึงเป็นแต้มต่อและโอกาสทางการค้าในช่วงนี้

ทั้งนี้ รายงานจาก JD.com ระบุว่ายอดการสั่งซื้อข้าวและผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้นกว่า 154 %เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เช่นเดียวกับสินค้าอาหารทะเล และเนื้อวัว นอกจากนี้ มีรายงานว่าประชาชนส่วนใหญ่นิยมสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ร้านอาหารหลายแห่งเริ่มปรับตัวและให้บริการร่วมกับแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นต่าง ๆมากขึ้น อาทิ ปรับระยะทางของการส่งอาหารให้ไกลขึ้น จำหน่ายสินค้าอาหารแช่แข็ง อาหารกึ่งสำเร็จรูป และขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยวันที่ 9 ก.พ. 2563 การไปรษณีย์สาธารณรัฐประชาชนจีนประชุมร่วมกับบริษัทขนส่งรายใหญ่ 7 บริษัท ได้แก่ Zhongtong, Yuantong, Shentong, Yunda, Best, Debang and Suning เตรียมความพร้อมด้านการขนส่ง เพื่อสนับสนุนความต้องการผ่านทางช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งเริ่มขนส่งตามปกติแล้ว และคาดว่าภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้การขนส่งประมาณ40% จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 

นอกจากนี้ ภาคบริการกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ พบว่าคนจีนมีสถิติการค้นหากิจกรรมออนไลน์ อาทิ เกมส์ออนไลน์ ออกกำลังกายผ่านแอพพลิเคชั่น และบริการปรึกษาทางการแพทย์ สนค. มองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสดีสำหรับไทยในการตีตลาดกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น ละครหรือรายการทีวี เริ่มได้รับความนิยมสูงในจีน และใช้โอกาสการประชาสัมพันธ์สินค้าไทย รวมถึงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์ 

Advertisement

สำหรับการส่งออกและนำเข้าสินค้า ท่าเรือสินค้า ด่านศุลกากรและหน่วยงานต่างๆ กลับมาเปิดทำการปกติแล้ว ยกเว้นมณฑลหูเป่ยคงปิดบางแห่ง เช่น ท่าเรือหยางหลัวในอู่ฮั่น ที่เปิดเป็นท่าสำหรับรับสินค้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และคาดว่าอาจใช้เวลา – 4 สัปดาห์ก่อนกลับเข้าสู่การจราจรปกติ ส่วนบางแห่งอาจมีความล่าช้าเนื่องจากสินค้าหนาแน่น และพนักงานบางส่วนยังคงปฏิบัติงานที่บ้าน ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ผู้ส่งออกควรประสานคู่ค้าท้องถิ่นเพื่อขอคำแนะนำเส้นทางการขึ้นสินค้าที่เหมาะสม รวมทั้งการหาห้องเย็นและตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเก็บรักษาสินค้าที่เน่าเสียง่ายระหว่างรอดำเนินการ

“ขณะนี้ทั่วโลกกำลังติดตามความคืบหน้าการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิด และประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและการค้าในระยะข้างหน้า องค์กรวิจัยด้านเศรษฐกิจ EIU คาดการณ์ว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในไตรมาสแรก และประเมินว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวที่ 5.4 %โดย สนค. คาดว่ารัฐบาลจีนจะมีการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมาหลังจากนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และรักษาโมเมนตัมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ “

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวต่อว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศกว่า 62 แห่ง ใน 42 ประเทศทั่วโลกได้รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าต่าง ๆ มายังกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งให้ผู้ส่งออกทราบสถานการณ์และปรับแผนการส่งออกอย่างทันท่วงที

Advertisement

สำหรับในปี 2562 การส่งออกจากไทยไปจีน มีมูลค่า 29,172 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยจีนเป็นตลาดหลักสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทย เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ผลไม้สดแช่แข็งและแห้ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และเมืองส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ กวางตุ้ง 28% เซี่ยงไฮ้ 26% และซานตง 14% 

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวอีกว่า ปี 2563 กระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนในการทำตลาดจีนอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าศักยภาพที่การส่งออกจากไทยไปจีนมีการขยายตัวสูง โดยเน้นทั้งเมืองใหญ่และการเจาะตลาดลึกในรายมณฑลสินค้าสำคัญที่คาดว่าจะขับเคลื่อนการส่งออกไปจีนปี 2563 เช่น ผลไม้สดแช่แข็ง และผลไม้แห้ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องสำอาง รถยนต์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image