พูดกันมานานหลายปี ปรับแบบกันมาก็หลายรอบ แต่การพัฒนาพื้นที่ย่าน ท่าเรือกรุงเทพ หรือ ท่าเรือคลองเตย ก็ยังไม่คืบหน้า
ล่าสุด แว่วมาอีกแล้วว่าการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท. จะนำเสนอแผนการพัฒนาท่าเรือคลองเตย ภายใต้ โครงการสยามเกต (siam gate) ใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 3.33 แสนล้านบาท ให้คณะกรรมการ (บอร์ด) กทท.พิจารณาอนุมัติ วันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้
โครงการนี้แว่วว่าเป็นโครงการที่มีแนวโน้มผลตอบแทนการลงทุนที่ดีมาก เนื่องจากอยู่ในทำเลทองกลางเมือง มีพื้นที่หน้าท่าเลียบริมน้ำในการพัฒนายาวกว่า 1 กิโลเมตร และจากผลการเปิดประชาพิจารณ์รวม 3 ครั้ง พบว่ามีนักลงทุนเอกชนสนใจเป็นอย่างมาก เช่น กลุ่มเครือเซ็นทรัล เป็นต้น
สำหรับรูปแบบการพัฒนา จะเป็นการปรับลดขนาดพื้นที่ให้บริการขนส่งสินค้าเหลือ 500 ไร่ อีก 400 ไร่จะพัฒนาเชิงพาณิชย์ เปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบพีพีพี ระยะสัมปทาน 30-35 ปี
โดยมีแนวคิดจะพัฒนาเป็นมิกซ์ยูสริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์การประชุม ศูนย์กลางทางการแพทย์ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ รถไฟฟ้าโมโนเรลเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางภายใน ถนนทางเดินเลียบริมน้ำและสวนป่าเพื่อเป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชน
เบื้องต้น กำหนดแผนการดำเนินโครงการ 10 ปี แบ่งระยะดำเนินงานโครงการเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 ระหว่างปีที่ 1-5 คาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนรวมประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท เช่น โครงการก่อสร้างโรงแรม ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (เฟอร์รี่) และศูนย์กลางทางการแพทย์ ส่วนระยะที่ 2 ระหว่างปีที่ 6-10 วงเงินลงทุนอีกประมาณ 2.4 แสนล้านบาท เช่น โครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าหรือคอมเพล็กซ์ ศูนย์การประชุม สปอร์ตคอมเพล็กซ์ แกลลอรี่การจัดแสดง และการจัดสรรพื้นที่ให้เช่า เป็นต้น
ตามขั้นตอน เมื่อบอร์ดอนุมัติ การท่าเรือจะเสนอแผนพัฒนาให้กระทรวงคมนาคมเห็นชอบประมาณเดือนมีนาคม หรือเมษายนนี้ จากนั้นเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติประมาณเดือนกันยายน
การท่าเรือเชื่อว่า หากเดินหน้าโครงการได้สำเร็จจะช่วยสร้างรายได้มหาศาล ซึ่งปกติ กทท.มีรายได้จากการขนส่งสินค้าราว 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท แต่หากทำโครงการได้ กทท.จะมีรายรับเฉพาะค่าเปิดหน้าดินให้เอกชนเข้ามาทำประโยชน์มากถึง 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกับค่าเช่าที่จะได้รับตลอดระยะเวลา 30 ปี
หากทำสำเร็จจริง จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับศักยภาพพื้นที่โดยรอบด้วยแน่นอน!!
นายขันตี
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
