เชลล์ชูโมเดล “Trusted Partner” เพื่ออนาคต

นายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจว่า บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิงมากว่า 128 ปี ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตเพื่อรองรับความต้องการด้านพลังงานของไทยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสานต่อและมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน บนแนวคิด “Trusted Partner”โดยให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและการยกระดับคุณภาพชีวิตในระดับบุคคลและชุมชนควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ มุ่งหวังให้ทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงพลังงานที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่อยู่ในสภาพแวดล้อม การดำรงชีวิต การทำงาน การพักผ่อนเรียนรู้ ที่สามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ อาทิ สภาวะโลกร้อน ภัยด้านสุขภาพและอนามัย ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตลอดจนความกดดันของสภาวะเศรษฐกิจ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทมีสถานีบริการน้ำมันกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ นอกจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นทุกปีแล้ว กลยุทธ์หลักของเชลล์คือ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อนำไปสู่พลังงานที่สะอาดมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม หรือ “Powering Progress Together for More and Cleaner Energy Solutions” แนวทางดำเนินงานในหลากหลายส่วน อาทิ การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทต่างๆ การมองหาโอกาสพลังงานทางเลือก การลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จากการตระหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนในแบบที่มีความสมดุล ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น หนึ่งในหลายความร่วมมือที่เชลล์จัดอยู่ในลำดับต้นๆ คือ การสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนการใช้ Bio Component ในไบโอดีเซลและเอทานอล ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ได้แก่ เชลล์ อี 20 แก๊สโซฮอล์ (Shell E20 Gasohol) และ เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล B10 (Shell FuelSave Diesel B10) น้ำมันดีเซลสูตรใหม่ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้

นายปนันท์ กล่าวอีกว่า ในฐานะองค์กรที่มีรากฐานคู่กับสังคมไทยและอุตสาหกรรมพลังงานมาอย่างยาวนาน ในเชิงสังคม เชลล์ตระหนักในคุณค่าของทรัพยากรบุคคลและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรที่เป็นกำลังสำคัญของชาติอย่างยิ่ง ทั้งที่เป็นบุคลากรภายในองค์กรและบุคลากรในภาคส่วนต่างๆ เชลล์ ประเทศไทย ได้นำหลักการ Outward Mindset มาใช้เช่นเดียวกับบริษัทชั้นนำระดับโลกในการสร้างศักยภาพพนักงาน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในเนื้อหาของภารกิจที่ทำ เข้าใจความต้องการของผู้อื่น สร้างความภูมิใจให้กับบุคลากรเมื่อได้ทำงานร่วมกับองค์กรแห่งนี้ สำหรับบุคลากรภายใน ล่าสุดเชลล์ได้มีการปรับปรุงบรรยากาศในสถานที่ทำงานใหม่ในคอนเซ็ปต์ “Great Workplace” ประกอบด้วยแนวคิด Innovation and Collaboration ที่สร้างสรรค์ที่ทำงานแบบเปิดกว้าง เป็นพื้นที่โล่ง มีสัดส่วนพื้นที่ส่วนรวมกว้างขวาง ซึ่งจะทำให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้สะดวกสบายมากขึ้น ลดขั้นตอนการทำงาน ป้องกันความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน สร้างการยอมรับในความแตกต่างและการมีส่วนร่วมภายในองค์กร แนวคิด Good health & Wellbeing ที่เป็นการแสดงความห่วงใยในความปลอดภัยโดยกำหนดให้เป็นหนึ่งในเป้าหมายธุรกิจโดยไม่แยกจากกัน การดูแลสุขภาพพนักงานด้วยนวัตกรรมออกแบบโต๊ะทำงานที่ดีต่อผู้ใช้งานและบรรยากาศการทำงานที่สร้างเสริมสุขภาวะ ที่พิเศษคือ ศูนย์กีฬาและออกกำลังกายที่พนักงานสามารถใช้งานได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต อีกหนึ่งแนวคิดที่เชลล์ไม่อาจละเลย คือ Environmentally-friendly space ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมในการให้คนอยู่ร่วมกับธรรมชาติ นำธรรมชาติเข้าสู่องค์กร มีการคัดแยกและจัดการขยะแต่ละประเภท ติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อนำพลังงานสะอาดมาใช้ ลดและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลาสติก และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เป็นต้น

“Trusted Partner เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่พร้อมส่งมอบพลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม “ในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายนั้น เราไม่สามารถทำเพียงฝ่ายเดียวได้ทั้งหมด ในเชิงนโยบายด้านพลังงาน ก็ต้องทำงานร่วมกับภาครัฐ ต้องเข้าใจนโยบายทิศทางการดำเนินการ ต้องคำนึงถึงประชาชนในภาคส่วนต่างๆ ที่จะปรับเปลี่ยนมาสู่พลังงานที่สะอาดและยั่งยืน ในส่วนของการเป็นผู้ให้บริการน้ำมันและธุรกิจเชื่อมโยง ก็ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบในทุกส่วนปฏิบัติการ ต้องมีความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด แม้ในส่วนที่เป็นรายละเอียด เช่น การทำความเข้าใจกับผู้บริหารสถานีบริการน้ำมันให้เป็นกำลังสำคัญของบริษัทในการเข้าถึงและดูแลชุมชน เชลล์ต้องสานต่อและมุ่งเน้นการเติมสุขให้ทุกชีวิต เพื่อวันนี้และอนาคตต่อไป” นายปนันท์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image