กรมศุลฯ โชว์ตัวเลขส่งออกหน้ากากอนามัย 330 ตัน จ่อเอาผิดเพจอ้างกรมศุลฯกักหน้ากากนำเข้า

นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมศุลกากรเฝ้าระวังการลักลอบส่งออกหน้ากากอนามัย ซึ่งพบว่ายังมีการส่งออกตามใบอนุญาตตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ โดยในเดือนมกราคมมีจำนวนส่งออก 150 ตัน เดือนกุมภาพันธ์ ส่งออกประมาณ 180 ตัน ไปยังประเทศ จีน ฮ่องกง อเมริกา รวมทั้ง 2 เดือน 330 ตัน มูลค่าการส่งออกรวม 160 ล้านบาท ส่วนการนำเข้าพบว่าในเดือนมกราคมจำนวน 145 ตัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 71 ตัน ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากประเทศจีน ต้องเสียภาษีนำเข้า 5%

“ในการส่งออกต้องมีใบอนุญาตตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ส่วนจะเป็นจำนวนเป็นชิ้นเท่าไหร่ยังประเมินลำบาก เพราะนำหนักไม่เท่ากัน ขณะนี้มีการเฝ้าระวังการส่งออก ซึ่ง อธิบดีกรมศุลกากรสั่งการไปยังหน่วยงานต่างๆ ทุกหน่วยงานไม่ให้ลักลอบส่งออกหน้ากากอนามัย โดยใช้เครื่องเอ็กซเรย์แสกนตู้คอนเทนเนอร์ที่น่าสงสัยว่าจะส่งออกไม่ถูกต้อง รวมถึงการวิเคราะห์ข่าวความเป็นไปได้ของการลักลอบส่งออก ซึ่งยืนยันว่ากรมเฝ้าระวังเต็มที่ ป้องกันการลักลอบส่งออกโดยไม่ถูกต้อง”นายชัยยุทธกล่าวและว่า นอกจากนี้ยังให้การท่าอากาศยานช่วยดูเรื่องการหิ้วหน้ากากอนามัยออกนอกประเทศโดยไม่มีใบอนุญาตตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ จากการเอ็กซเรย์กระเป๋าของผู้โดยสารแต่ละคนด้วย

นายชัยยุทธกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีบางเพจไปลงข้อมูลว่ากรมศุลกากรกักตู้สินค้านำหน้ากาก 5 ล้านชิ้น และมีเจ้าหน้าที่กรมขอแบ่ง 2 ล้านชิ้นเพื่อเอาไปใช้ รวมถึงมีการกล่าวหาว่ากรมส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจขายเกินราคาไหมนั้น จากการตรวจสอบพบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง

นายชัยยุทธกล่าวว่า เรื่องการกักตู้หน้ากาก 5 ล้านชิ้น กรมตรวจสอบนำเข้าในท่าต่างๆ เช่น ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง และที่สุวรรณภูมิ ไม่มีกรณีไหนที่เจ้าหน้าที่ไปกักสินค้าไว้ รวมถึงเช็คข้อมูลนำเข้าหน้ากากอนามัยตั้งแต่เดือนมกราคม -วันที่ 10 มีนาคม ไม่พบผู้นำเข้าหน้ากากอนามัยจำนวน 5 ล้านชิ้น พบกรณีนำเข้ามากสุดในเดือนมีนาคมจำนวน 1 ล้านชิ้น ซึ่งตรวจปล่อยไปแล้ว ส่วนในเดือนมกรคมถึงกุมภาพันธ์ ไม่มีนำเข้าถึง 5 ล้านชิ้น โดยสูงสุดที่นำเข้าคือ 2 ล้านชิ้น ในเดือนกุมภาพันธ์

Advertisement

นายชัยยุทธ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กรมได้วิเคราะห์พบว่ารูปภาพหน้ากากอนามัยที่เพจดังกล่าวนำมาลง ไม่ใช่รูปหน้ากากที่ถูกกัก เพราะเป็นรูปเดียวสินค้าลงในโชปี้ ในประเทศอินโดนียเชีย แสดงว่าผู้ลงข้อมูลนี้ไม่ได้เอารูปที่ตัวเองเกี่ยวข้อง เป็นการเอารูปจากที่อื่นมา ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลใดสนับสนุนว่าข้อมูลที่ลงเพจเป็นเรื่องจริง ส่วนกรณีส่งเจ้าหน้าที่ไปร้านขายยา กรมไม่มีนโยบายให้ไปดำเนินการลักษณะดังกล่าว เพราะไม่ใช่อำนาจหน้ากรมเพื่อไปตรวจจับเรื่องขายเกินราคา

“ประเมินว่าเจ้าของเพจอ้างกรมศุลกากร เพราะไม่มีหน้ากากส่งให้ลูกค้า ถ้าเจ้าของข้อมูลคิดว่าข้อมูลตัวเองเป็นเรื่องจริงให้มายืนยันว่ากับกรม ซึ่งกรมยินดีรับฟังและแสวงหาข้อเท็จจริง แต่ถ้าไม่ถูกต้องขอให้รับผิดชอบกับสิ่งทำไปด้วย เพื่อไม่ให้สังคมสับสน ขณะนี้กำลังพิจาณาว่าจะดำเนินการทางใดได้บ้าง แต่เบื้องต้นขอความกรุณาว่าหากรู้เท่าเท่าไม่ถึงการณ์ให้ลบข้อมูลทิ้งไปซะ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน”นายชัยยุทธกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image