คอฟฟี่เบรก : รวมพลัง

สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) แถลงข่าวผลการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2563 และความคืบหน้าการคืนเงินประกันการไฟฟ้า (มิเตอร์ไฟฟ้า) วงเงิน 3 หมื่นล้าน ให้กับประชาชน 21.5 ล้านครัวเรือน ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อสื่อมวลชน

สังเกตว่า ทั่นคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. เนื้อหอมสุดสุด เพราะเป็นการแถลงเอฟทีนัดแรกหลังเข้ารับตำแหน่งมาระยะหนึ่ง

เนื้อหาแถลงข่าวบอกเลย กระจิบกระจอกข่าวอมยิ้มตาม ก็แหม มีทั้งมติตรึงค่าเอฟที -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ต่อไปอีก 4 เดือน ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ประชาชนต้องจ่ายจริงอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

นอกจากนี้ ทั่นคมกฤชยังแถลงความคืบหน้าการคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า นโยบายว้าวๆ จากรัฐบาล ที่ประชาชนทั่วประเทศตั้งตารอ โดยยืนยันว่าทันภายในเดือนมีนาคมนี้ และสำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องได้รับความสะดวก ดังนั้น เครื่องมือการคืนเงินผ่านระบบออนไลน์จึงเป็นช่องทางหลักที่ กกพ.ต้องการ แต่ต้องขึ้นอยู่กับวิธีบริหารจัดการของ 2 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในฐานะหน่วยงานดูแลตรงด้วย

Advertisement

คุยไปสักพักหนึ่ง กระจิบข่าวเริ่มลงลึก คุณคมกฤชกวักมือเรียก ทั่นประเทศ ศรีชมภู รองเลขาธิการสำนักงาน กกพ.ใหม่ถอดด้าม ช่วยอธิบาย ในฐานะที่ทั่นลุยงานนี้มาแต่แรก

ภาพตรงหน้าจึงมุ้งมิ้งฝุดๆ เพราะทั่นเลขาฯ (ตัวเล็กพริกขี้หนู) นั่งแถลง ส่วนทั่นประเทศ (สูงโปร่ง) ยืนแถลง

แต่เนื้อหาสาระชัดเจนเพื่อประโยชน์ประชาชน รวมพลังคน กกพ.จริงๆ ค่า…อิอิ

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image